การประเมินโครงการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน โรงเรียนนามนพิทยาคม (รองฯประดาบชัย ตุระซอง)..... บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
โดยนายประดาบชัย ตุระซอง
รองผู้อำนวยการโรงเรียนนามนพิทยาคม
การประเมินโครงการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม โรงเรียนนามนพิทยาคม ปีการศึกษา 2551 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนโรงเรียน นามนพิทยาคม ในด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัย ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิตของโครงการโดยใช้รูปแบบการประเมิน ซิปป์ ( CIPP Model ) กลุ่มผู้ให้ข้อมูลทั้งสิ้น จำนวน 571 คน แบ่งเป็น ครู 36 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียน 15 คน นักเรียน 260 คน ผู้ปกครองนักเรียน 260 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินเป็นแบบสอบถาม จำนวน 4 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t – Test) ผลการประเมินและข้อเสนอแนะ สรุปได้ดังนี้
1.ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อม
ก่อนการดำเนินการ พบว่าโดยภาพรวม ผลการประเมินอยู่ในระดับ มากที่สุด และมีความคิดเห็นใกล้เคียงกัน (ค่าเฉลี่ย = 4.64 , S.D. = 0.59 ) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก คือ โรงเรียนมีนโยบายในการส่งเสริมด้านคุณธรรมจริยธรรมนักเรียน (ค่าเฉลี่ย = 4.98) รองลงมาคือ เป็นโครงการสร้างคุณลักษณะที่ดีด้านคุณธรรมให้แก่นักเรียน (ค่าเฉลี่ย = 4.88) และโครงการมีความสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ค่าเฉลี่ย = 4.78) ส่วนข้อที่มีค่า (ค่าเฉลี่ย = 4.21)
หลังการดำเนินการ โดยภาพรวม ผลการประเมินอยู่ในระดับ มากที่สุด และมีความคิดเห็นใกล้เคียงกัน (ค่าเฉลี่ย = 4.80 , S.D. = 0.67 ) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ โรงเรียนมีนโยบายในการส่งเสริมด้านคุณธรรมจริยธรรมให้แก่นักเรียน ( ค่าเฉลี่ย = 5.00) รองลงมาคือโครงการมีความสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ค่าเฉลี่ย = 4.96) และโครงการมีความเหมาะสมกับสภาพปัญหาความต้องการของโรงเรียน (ค่าเฉลี่ย = 4.94) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ การจัดบรรยากาศในการดำเนินการเหมาะสมและสอดคล้องกับโครงการ (ค่าเฉลี่ย = 4.27)
2.ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า
ก่อนการดำเนินการ โดยภาพรวม ผลการประเมินอยู่ในระดับ มาก (ค่าเฉลี่ย = 3.68 , S.D. = 1.05 ) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก คือ ผู้บริหารให้การสนับสนุนโครงการ(ค่าเฉลี่ย = 4.43) รองลงมาคือการได้รับงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานต้นสังกัด (ค่าเฉลี่ย = 4.29) และความพร้อมของครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้องที่เข้าร่วมโครงการ (ค่าเฉลี่ย = 4.05) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ การได้รับงบประมาณสนับสนุนจากชุมชน บุคคลหรือหน่วยงานอื่น (ค่าเฉลี่ย = 1.27) หลังการดำเนินการ โดยภาพรวม ผลการประเมินอยู่ในระดับ มากที่สุด และมีความคิดเห็นใกล้เคียงกัน (ค่าเฉลี่ย = 4.21, S.D. = 0.67 ) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก คือ ผู้บริหารให้การสนับสนุนโครงการ( ค่าเฉลี่ย = 4.88) รองลงมาคือการได้รบงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานต้นสังกัด (ค่าเฉลี่ย = 4.84) และอาคารสถานที่ห้องปฏิบัติงานในการดำเนินกิจกรรมของโครงการมีความเหมาะสม (ค่าเฉลี่ย = 4.72) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ การได้รับงบประมาณสนับสนุนจากชุมชน บุคคลหรือหน่วยงานอื่น (ค่าเฉลี่ย = 1.49)
3.ผลการประเมินด้านกระบวนการ
ก่อนการดำเนินการ โดยภาพรวม ผลการประเมินอยู่ในระดับ มากที่สุด และมีความคิดเห็นใกล้เคียงกัน (ค่าเฉลี่ย = 4.02 , S.D. = 0.72 ) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ แรกคือ การวางแผนดำเนินโครงการ(ค่าเฉลี่ย = 4.31) รองลงมาคือการมีการกำหนดบทบาทหน้าที่คณะกรรมการอย่างชัดเจนในการดำเนินกิจกรรมตาม (ค่าเฉลี่ย = 4.29) และกิจกรรมที่กำหนดทั้ง 10 กิจกรรมในโครงการมีความสอดคล้องและเหมาะสมในการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมนักเรียน(ค่าเฉลี่ย = 4.25) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ การดำเนินกิจกรรมที่กำหนดในโครงการตามขั้นตอนทุกกิจกรรมการ (ค่าเฉลี่ย = 3.64)
หลังการดำเนินการ โดยภาพรวมผลการประเมินอยู่ในระดับ มากที่สุด และมีความคิดเห็น ใกล้เคียงกัน (ค่าเฉลี่ย = 4.68 , S.D. = 0.57 ) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก คือ การวางแผนดำเนินโครงการ(ค่าเฉลี่ย = 4.92) รองลงมาคือ กิจกรรมที่กำหนดทั้ง 10 กิจกรรมในโครงการมีความสอดคล้องและเหมาะสมในการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมนักเรียนโรงเรียน (ค่าเฉลี่ย = 4.88) และการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาโรงเรียน ซึ่งมีค่าเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ย = 4.82) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ค่าเฉลี่ย = 4.33)
4.ผลการประเมินด้านผลผลิต
4.1.พฤติกรรมกรรมของนักเรียนที่แสดงออกด้านคุณธรรมจริยธรรม
ก่อนดำเนินโครงการ โดยภาพรวม ผลการประเมินอยู่ในระดับ ปานกลาง และมีความคิดเห็นใกล้เคียงกันโดยมีค่าเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ย = 3.55 , S.D. = 1.00 ) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก คือ มีความซื่อสัตย์สุจริต (ค่าเฉลี่ย = 4.05) รองลงมาคือมีความกตัญญูกตเวที (ค่าเฉลี่ย = 3.94) และเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว ชุมชนและสังคม (ค่าเฉลี่ย = 3.81) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีค่าเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ย = 2.84)
หลังดำเนินโครงการ โดยภาพรวม ผลการประเมินอยู่ในระดับ มาก และมีความคิดเห็นใกล้เคียงกันโดยมีค่าเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ย = 4.12 , S.D. = 0.86) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก คือ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน (ค่าเฉลี่ย = 4.43) รองลงมาคือ มีความซื่อสัตย์สุจริต (ค่าเฉลี่ย = 4.33) และมีความกตัญญูกตเวทีมีค่าเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ย = 4.32) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ (ค่าเฉลี่ย = 3.80)
4.2.ผลสัมฤทธิ์ของกิจกรรมตามโครงการ
โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุดและมีความคิดเห็นใกล้เคียงกัน โดยมีค่าเฉลี่ย(ค่าเฉลี่ย = 4.57, S.D. = 0.62) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก คือ กิจกรรมประหยัดและออม(ค่าเฉลี่ย = 4.78) ,กิจกรรมคนดีศรีนามน (ค่าเฉลี่ย = 4.77), กิจกรรมโฮมรูม(ค่าเฉลี่ย = 4.65)ส่วนกิจกรรมที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือกิจกรรมวันสำคัญ (ค่าเฉลี่ย = 4.36)
5. ข้อเสนอแนะในการนำไปใช้
5.1. การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม ผู้บริหารต้องให้ความสนใจโดยกำหนดนโยบายที่ชัดเจน จัดบุคลากรที่รับผิดชอบที่ชัดเจน ให้ขวัญกำลังใจ สนับสนุนปัจจัยที่เอื้อต่อการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ดำเนินการนิเทศ กำกับติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
5.2. บุคลากรต้องมีความตระหนัก และร่วมดำเนินการทุกคน ทุกขั้นตอน มีการร่วมประชุมอย่างสม่ำเสมอ และผู้บริหารมีการนิเทศติดตามอย่างใกล้ชิด
5.3. ควรจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน มีแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย สถานที่เพียงพอต่อการจัดกิจกรรม
5.4. ผู้ปกครอง ชุมชน ต้องเข้าใจและร่วมมือในการดูแลบุตรหลาน ร่วมกับโรงเรียน
5.5. ควรมีการเผยแพร่ แลกเปลี่ยนวิธีดำเนินการดำเนินโครงการระหว่างโรงเรียน หรือ หน่วยงาน เพื่อปรับปรุงพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้น
6. ข้อเสนอแนะในการประเมินหรือวิจัยในครั้งต่อไป
6.1. ควรทำรายงานการวิจัยติดตามโครงการต่างๆของโรงเรียน เพื่อให้ทราบความก้าวหน้าของการดำเนินงาน และประสิทธิภาพของโครงการ
6.2. ควรทำการวิจัย เพื่อพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมอื่นให้มากขึ้น
6.3. จากผลการประเมินที่พบว่าด้านผลผลิต ข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีค่าเฉลี่ย คือ (ค่าเฉลี่ย = 3.80) จึงควรหาแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาให้นักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์โดยจัดทำโครงการ กิจกรรมหรือนวัตกรรมขึ้นมาแก้ไขในโอกาสต่อไป