ต้องซื่อสัตย์พร้อมถูกย้าย
นำเข้าเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2561 โดย จุฬา ศรีบุตตะ
อ่าน [58522]  

เปิดใจบิดา "ผู้ว่าฯเชียงราย" เลี้ยงลูกแบบทหารจึงโตเป็นคนดี สอนเสมอไปไหนก็ได้ขอแค่ทำงานเพื่อส่วนรวม.....

 เปิดใจบิดา "ผู้ว่าฯเชียงราย" เลี้ยงลูกแบบทหารจึงโตเป็นคนดี สอนเสมอต้องซื่อสัตย์พร้อมถูกย้ายไปไหนก็ได้ขอแค่ทำงานเพื่อส่วนรวม

 
เปิดบทสัมภาษณ์บิดา "ผู้ว่าฯเชียงราย" เลี้ยงลูกแบบทหารจึงโตเป็นคนดี เผยเข้มงวดมาก ผิดต้องลงโทษ แต่มีเหตุผลไม่ใช้อารมณ์ ลั่นสอนลูกเสมอต้องซื่อสัตย์ห้ามรับเงินใครทั้งนั้น แล้วต้องพร้อมถูกย้ายไปที่ไหนก็ได้ ขอแค่ได้ทำงานเพื่อส่วนรวม เพราะได้ตำแหน่งมาแบบไม่ต้องลงทุนวิ่งเต้นตำแหน่ง ได้มาถึงเท่านี้ก็ดีมากแล้ว 
 
วันนี้ (3 ก.ค.) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ผู้อำนวยการหลักสูตร Ph.D. และ M.Sc. (Business Analytics and Data Science) สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Arnond Sakworawich " ถึงบทสนทนาที่เจ้าตัวไปสัมภาษณ์ คุณลุงประสาน โอสถธนากร บิดาของ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ถึงรายละเอียดการเลี้ยงดูลูก 
 
มีรายละเอียดว่า ... ผมเป็นลูกค้าประจำของร้านประสานเภสัชที่ปากซอยภาวนา ลาดพร้าว 41 คุณลุงประสาน โอสถธนากร เจ้าของร้าน เป็นคนซื่อตรง พูดตรง โอบอ้อมอารี ขายของในราคาเป็นธรรม ไม่โก่งราคา และมีน้ำใจ ทำให้เป็นที่ชอบพอของชาวบ้านย่านนี้และขายยามากว่า 50 ปี แล้ว
 
คุณลุงมีลูก 4 คน เป็นผู้หญิงหนึ่งคนผู้ชายสามคน มีหลาน 4 คน เป็นหลานสาวสามคนและหลานชายหนึ่งคน เวลาไปซื้อยา คุณลุงจะเล่าเรื่องลูกหลานให้ฟังด้วยความภาคภูมิใจมากว่าเลี้ยงลูก 4 คน หลาน 4 คน ได้เรียนหนังสือกันดีๆ และจบปริญญาโททุกคน คุณลุงพูดถึงลูกหลานอย่างมีความสุขที่สุด
 
วันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าใหญ่ในการประสานทุกหน่วยงานในการแก้ไขภัยพิบัติลูกหมูป่า 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ณ ดอยขุนน้ำนางนอน จนเป็นที่รู้จักในบุคลิกภาพแบบเอาจริงเอาจัง พูดน้อย ตรงไปตรงมา และโผงผาง ฉะฉาน
 
นายแพทย์สุกมล วิภาวีพลกุล จิตแพทย์ ได้วิเคราะห์ว่าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายมีบุคคลิกภาพแบบ ENTJ ตาม Myer Brigg Types Indicator หรือ MBTI ตามแนวคิดของ Carl Jung โดยที่ตัว E ย่อมาจาก Extraversion N ย่อมาจาก Intuition T ย่อมาจาก Thinking และ J ย่อมาจาก Judgment ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นว่า
 
"นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร" ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายน่ายจะมีอุปนิสัยแบบ ENTJ - The Executive (most commanding) ลองอ่านดูนะว่าอันไหนตรงหรือไม่ตรง ....
 
เป็นนักกลยุทธ์ มีความคิดสร้างสรรค์ มีเหตุผล มั่นใจในตนเอง ใจร้อน ชอบแข่งขัน มีพลัง คิดและทำอะไรจริงจัง มีความสามารถและไม่ค่อยอยู่นิ่ง เป็นคนรอบรู้ แก้ปัญหาเก่ง เชื่อมโยงสิ่งต่างๆได้ดี ท้าทายอุปสรรค ชอบถกเถียงเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ชื่นชอบและเคารพคนที่กล้าท้าทายเขา และจะไม่นับถือคนที่ไม่กล้าทำแบบนั้น ตัดสินใจรวดเร็ว มีความเฉียบขาดในการทำสิ่งต่างๆ ทำงานเก่งแต่ให้กำลังใจคนไม่เก่ง
 
มักจะก้าวไปอยู่ในตำแหน่งที่สามารถควบคุมและระดมสรรพกำลังเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายระยะยาว มีความสามารถในการประยุกต์ด้านการจัดการและการวางแผน เน้นเหตุผลและตรรกะ ชอบทำงานที่มีนโยบายชัดเจน ชอบทำงานกับคนที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ ไม่ชอบคุยกับคนที่ใช้อารมณ์ หงุดหงิดกับคนที่ทำผิดซ้ำๆซากๆ มุ่งการพัฒนาไปข้างหน้า ความคิดเชิงกลยุทธ์ที่จะทำสิ่งใหม่ๆเป็นสิ่งสำคัญมาก แก้ปัญหาด้วยตรรกะและเหตุผล
 
สื่อสารกับผู้อื่นอย่างตรงประเด็น มีความเด็ดขาด กล้าตัดสินใจ มักได้รับการเลือกให้เป็นผู้นำทีม บางคนดูเหมือนวางอำนาจ แต่ลึกๆก็ไม่ได้คิดอะไร มีลักษณะของผู้นำอย่างแท้จริง มีความสามารถในการบริหารจัดการสูง ดูยุ่งอยู่ตลอดเวลาเพราะเต็มที่กับงานมาก วางเป้าหมาย และให้อิสระกับคนที่ทำงานด้วย....
 
วันนี้ผมได้ไปซื้อยาที่ร้านประสานเภสัช เลยถามคุณลุงว่า เลี้ยงลูกอย่างไร ให้ได้ดี แบบท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย 
 
คุณลุงยิ้มแบบคนใจดี แล้วตอบว่า
 
ผมเลี้ยงลูกแบบทหาร เลี้ยงลูกให้มีวินัย เลี้ยงลูกให้เป็นคนดี หลานผมก็เลี้ยงแบบเดียวกัน
 
ลูกคนโต (ท่านผู้ว่า เชียงราย) เขาบอกว่าป๋า (หมายถึงคุณลุงประสาน) โคตรจะดุและเป็นเผด็จการมาก
 
ผมดุลูกมาก และให้ลูกมีระเบียบวินัย เพราะผมเคยเป็นทหารมาก่อน
ผมเป็นทหารเสนารักษ์ ที่ค่ายจักรพงษ์ จังหวัดปราจีนบุรี อันที่จริงผมเป็นคนแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา ก่อนจะไปเป็นทหารผมเกเรมาก เล่นพนัน กินเหล้า สูบบุหรี่ ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ผมไปเป็นทหารแล้วได้เรียนทางเสนารักษ์ เลยเป็นเสนารักษ์ พอหนีเที่ยว ผมโดนซ่อมหนัก ผมอายมาก เหนื่อยไม่เท่าไหร่ หนักไม่เท่าไหร่ แต่อายคน ผมเลยกลับเนื้อกลับตัว
 
ผมลาออกมาจากทหาร แต่ได้อะไรจากการเป็นทหารเยอะมาก และผมเอาวิธีการฝึกทหารมาใช้เลี้ยงลูกทุกคน ลูกผมจึงได้ดี
 
นอกจากนี้ผมก็ยังได้วิชาเสนารักษ์มาและชอบและมีความสุขในการช่วยเหลือคนอื่น ขายยานี่มีความสุข เราขายไม่แพง ขายในราคาเป็นธรรม ให้ชาวบ้านที่ยากจนได้เข้าถึงยา ผมยังไม่เลิกขายแม้ลูกๆ บอกให้เลิก เพราะยังมีความสุขกับการได้ช่วยชาวบ้านจนๆ ได้เข้าถึงยา ผมขายไม่แพงนักคุณก็รู้ ผมอยากจะเลิกแต่ลูกค้าบอกว่าอย่าเลิก ผมขายถูกกว่าทุกร้าน เพราะผมไม่ได้อยากจะเอากำไรอะไรมากมาย แต่ผมมีความสุขที่ได้เจอคน ได้ช่วยคน
 
ถ้าถามว่าผมเลี้ยงลูกยังไง ผมก็จะตอบว่า ผมเลี้ยงลูกแบบทหาร
 
อะไรที่ถูก ลูกทำถูก ผมชม ผมให้กำลังใจ อะไรที่ผิด ไม่สมควรทำ ผมก็ลงโทษ ผมเข้มงวดแบบมีเหตุผล ต้องมีเหตุผล ไม่ใช่ใช้อารมณ์
 
ผมไม่ยอมให้ลูกสบาย สอนให้ลูกลำบาก ทำงานทุกอย่าง ลูกสี่คน ต้องทำงานในร้านทุกอย่าง คนโตนี่เขารู้เรื่องยาดีมาก ขายยาแทนได้ จัดของได้ สั่งยาได้ ผมไม่ยอมให้ลูกสบาย
 
อีกอย่างคือเราต้องทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง
 
เราซื่อสัตย์กับลูกค้า เราสอนลูกด้วยการทำให้ดู ผมบอกลูกเสมอว่า เงินหลวงบาทเดียวก็ต้องไม่โกง
 
ผมสอนลูกว่าห้ามรับเงินใครทั้งนั้น แม้กระทั่งลูกน้องหรือข้าราชการด้วยกัน ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
 
ลูกผมโตมาในกรมที่ดิน มีผลประโยชน์เยอะ ข้าราชการในกรมที่ดินทราบดีว่าให้เงินให้ทองลูกผมไม่รับ แต่ถ้าเป็นผลไม้นิดๆ หน่อยๆ ของที่ไม่มีราคาเป็นน้ำใจแก่กัน ผมบอกว่าให้ลูกผมรับ
 
คุณไปถามในกรมที่ดินได้เลยว่าคนในกรมเขาชมลูกผมเรื่องนี้อย่างไร ผมสอนลูกผมมาแบบนั้น ผมบอกให้ลูกทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง ให้ลูกประคองตัว ลูกผมมีหัวหน้ามาหลายคน มีสองคนเข้าคุกไปแล้ว คนหนึ่งเรื่องคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ อีกคนเรื่องการเลือกตั้ง (ละชื่อผู้ถูกพาดพิง และรายละเอียดออกไป โดยผู้เขียนเอง) ผมบอกลูกว่าให้ทำแต่สิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น แล้วลูกผมก็เป็นคนโผงผาง ตรงไปตรงมา ไม่กลัวใครเสียด้วย
 
ร้านขายยาผมเปิดมา 50 ปี ตู้ไม้สักใส่ยาที่คุณเห็นก็ห้าสิบปี ตอนนั้นเงินจะทำตู้ยังไม่มีเลย ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ซื้อ เก็บหอมรอมริบ ผมบอกลูกว่าไม่รวยก็ไม่เป็นไร ขอให้ซื่อสัตย์เท่านั้น
 
ผมเองสอนลูกเรื่องความกตัญญูด้วยการทำให้ดู ผมไปดูแลแม่ผมที่แปดริ้วตลอด และผมก็พาลูกไปด้วย และให้ลูกเคารพและดูแลย่า
 
ลูกผมก็อยากให้ผมเลิกขายของ เขาจะดูแลผม แต่ผมยังมีความสุขกับการขายยาและได้ช่วยเหลือลูกค้า
 
ผมทำบุญตลอด คนขับแท็กซี่สามล้อ เขาลำบากกว่าผมก็ทิปให้ทุกครั้ง ครั้งละ 20 บาท ผมมีความสุขกับการให้และการทำบุญ การช่วยเหลือคนอื่น
 
ผมสอนลูกว่า จะถูกย้ายไปที่ไหนก็ได้ ลูกเป็นข้าราชการ ไม่ได้ลงทุนอะไรแบบคนอื่นที่เขาวิ่งเต้นเรื่องตำแหน่งด้วยเงินกันเป็นล้านๆ ผมบอกลูกว่ามีเงินก็อย่าทำเช่นนั้น การที่ลูกผมไม่ได้ลงทุนอะไรเลยแล้วเติบโตมาด้วยความสามารถและผลงานทำให้ผมภูมิใจ บอกลูกว่าไปที่ไหนก็ได้ ขอให้ได้ทำงานเพื่อส่วนรวม ได้ตำแหน่งมาเท่านี้ก็ดีมากแล้ว ถือว่าดีกว่าคนอื่นตรงที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย (ในการวิ่งเต้นเส้นสาย)
 
คุณลุงเล่าให้ฟังอย่างมีความสุขที่สุด มีคนเข้ามาซื้อของในร้านตลอดเวลา
 
คุณลุงให้หนังสือเรื่องการแกว่งแขนเพื่อออกกำลังกายมาหนึ่งเล่มกับผมครับ
 
แปดเก้าวันนี้ผมเหนื่อยมาก นอนน้อย ดูโทรทัศน์ทั้งวันจนดึกดื่น ห่วงลูก เห็นว่าลูกทำงานหนัก ได้โทรไปคุยกันให้กำลังใจลูกเสมอ ลูกคนอื่นเขาก็มาเฝ้าผมตอนกลางคืน ผลัดกันมา มาอยู่เป็นเพื่อน กลัวผมไม่นอน เพราะตามข่าวลูกคนโตตลอดเวลา
 
ลองฟังที่คุณลุงคุยกับผมกันนะครับ เผื่อจะเอาไปใช้สอนลูก และเป็นวิธีการในการเลี้ยงลูกได้บ้าง

 

 
กำลังแสดงหน้าที่ 1 จากทั้งหมด 0 หน้า [หน้าถัดไปคือหน้าที่ 2] 1
 

 
เงื่อนไขแสดงความคิดเห็น
1. ทุกท่านมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระเสรี โดยไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ไม่กล่าวพาดพิง และไม่สร้างความแตกแยก
2. ผู้ดูแลระบบขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใด ๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
3. ความคิดเห็นเหล่านี้ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับคณะผู้จัดทำเว็บไซต์

ชื่อ :

อีเมล์ :

ความคิดเห็นของคุณ :
                                  

              * ใส่รหัสจากภาพที่เห็นลงในช่องด้านล่าง และใส่คำตอบจากคำถาม เพื่อยืนยันการส่งความเห็น
  และสำลีสีอะไร
    

          ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการแสดงความคิดเห็นโดยสาธารณชน ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชื่อผู้เขียนที่้เห็นคือชื่อจริง และข้อความที่เห็นเป็นความจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ boyoty999@google.com  เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้