การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อเ นำเข้าเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2561 โดย นางสาวธัณฤมน สำราญสุข อ่าน [58525]
.....
รายงานการวิจัยและพัฒนา
เรื่อง
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวทฤษฎี
คอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความสามารถ
ในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับ
การเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นางสาวธัณฤมน สำราญสุข
หน่วยงาน โรงเรียนหินลาดนารายณ์สาร ปีที่พิมพ์ 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย (1) เพื่อสร้างและพัฒนาการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
(2) เพื่อประเมินผลของรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น 2.1) เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในเชิงทฤษฏีของรูปแบบการสอน 2.2) เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในเชิงปฏิบัติการของรูปแบบการสอน
2.2.1) หาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น 2.2.2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 2.2.3) เปรียบเทียบความสามารถการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้นระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ จำนวน 7 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนหินลาดนารายณ์สาร อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 18 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสัมภาษณ์ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบวิธีการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ปรากฏการณ์ของโลกและเทคโนโลยีอวกาศ ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (B) ตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.81 และ มีค่าความเชื่อมั่น (rcc) ทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 และ
4) แบบวัดความสามารถการคิดวิเคราะห์ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากรายข้อ (p) ตั้งแต่ 0.43 - 0.80 ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (r) ตั้งแต่ 0.20-0.73 ค่าความเชื่อมั่น (rtt) ทั้งฉบับเท่ากับ 0.95 ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed-method Methodology) 2 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนที่ 1 สร้างและพัฒนารูปแบบการสอนโดยการสังเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ ขั้นตอนที่ 2 ประเมินรูปแบบการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญและทดลองใช้ในสถานการณ์จริง
หาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนตามเกณฑ์ 80/80 หาดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการสอน เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยคะแนนความสามารถการคิดวิเคราะห์ ทักษะของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน
สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ และ t-test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้
1. รูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
มี 5 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการของรูปแบบการสอน 2) จุดประสงค์ 3) สาระและเนื้อหา 4) กิจกรรมและขั้นตอนการสอนตามตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ ผลการพัฒนาพบว่า รูปแบบการเรียนการสอน ETTTRE Model ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่ดังนี้ ขั้นนำ (Elicitation of the Prior Knowledge) ขั้นล้วงความคิดร่วมกับเทคนิคร่วมมือแบบ คิดเดี่ยว-คิดคู่-ร่วมกันคิด (Think-Pair-Share) ขั้นปรับเปลี่ยนแนวความคิด (Turning Restructuring of Ideas) ขั้นนำความคิดไปใช้ร่วมกับเทคนิคร่วมมือแบบทำเป็นกลุ่ม-ทำเป็นคู่-ทำคนเดียว (Team-Pair-Solo)
ขั้นทบทวน (Review) ขั้นประเมินผล (Evaluation)
2. รูปแบบการสอนเชิงทฤษฏี มีความเหมาะสมและความสอดคล้องขององค์ประกอบ อยู่ในระดับมาก และแผนการเรียนรู้ที่พัฒนาตามรูปแบบการสอน มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด
3. แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 80.31/83.88 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
4. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่วิเคราะห์จากคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีค่าเท่ากับ 0.7422 นั่นคือ นักเรียนมีความก้าวหน้าในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 74.22
5.
|