ความตายเป็นที่สุด นำเข้าเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2561 โดย จุฬา ศรีบุตตะ อ่าน [58604]
| ๑. สิ่งที่ไม่มีนิมิต ไม่มีเครื่องหมาย คือ ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ มีอยู่ ๕ประการ ได้แก่ ไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นอยู่อีกนานเท่าไร ๑ ไม่รู้ว่าจะตายด้วยโรคอะไร ๑ ไม่รู้
ว่าจะตายเวลาไหน ๑ ไม่รู้ว่าจะตาย ณ สถานที่แห่งใด ๑ และ ไม่รู้ว่าตายแล้วจะไปเกิด ณ ที่ใด ๑ บุคคลที่เกิดมาแล้ว ล้วนมีความตายเป็นที่สุด ทุกคนเกิดมาแล้วต้องตาย เพราะชีวิตมีความตายเป็นที่สุด ไม่สามารถล่วงพ้นความตายไปได้เลย พระผู้มีพระภาคทรงอุปมาเหมือนกับภาชนะดิน ทั้งที่ดิบและสุก ล้วนมีความแตกไปเป็นธรรมดา มีความแตกไปเป็นที่สุด ไม่ล่วงพ้นความแตกไปได้เลย แต่ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่นี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้สั่งสมคุณงามความดี อบรมเจริญปัญญาเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ก่อนที่วันตายจะมาถึง ซึ่งไม่สามารถที่จะรู้ล่วงหน้าได้เลย ไม่รู้ว่าโอกาสของการเข้าใจธรรมในภพนี้ชาตินี้ จะเหลืออยู่อีกเท่าไร ดังนั้น จึงต้องมีความอดทนที่จะศึกษาพระธรรมฟังพระธรรม ต่อไป ๒. ความตาย ที่เกิดขึ้นแล้ว เราก็สมมุติกันว่า คนนั้นตาย คนนี้ตาย นั้น ความจริงแล้ว เป็นจิตประเภทหนึ่ง เป็นปรมัตถธรรมที่มีจริง กล่าวคือ เป็นจุติจิต ซึ่งกระทำกิจเคลื่อนจากความเป็นบุคคลนั้น ไม่สามารถที่จะย้อนกลับมาเป็นบุคคลนั้นได้อีกเลย ในชาติหนึ่ง ๆ นั้น จุติจิตจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ดับกิเลสทั้งหมดได้โดยเด็ดขาด เมื่อจุติจิตเกิดขึ้นดับไปแล้ว ปฏิสนธิจิตก็เกิดสืบต่อทันทีโดยไม่มีระหว่างคั่น เมื่อเข้าใจปรมัตถธรรมตามความเป็นจริงว่า ความตายเป็นเพียงจิตประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เท่านั้น เมื่อเข้าใจความจริงอย่างนี้แล้ว ความตาย ก็ไม่น่ากลัวอะไร ๓. กรรมที่ได้กระทำแล้ว ทั้งที่เป็นกุศลกรรมและอกุศลกรรม ถ้าหากมีโอกาสที่จะให้ผล ผลก็ย่อมเกิดขึ้น การให้ผลของกรรมนั้น เราไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่ากรรมใดจะให้ผลเมื่อใด อาจจะให้ผลในชาตินี้หรือในชาติถัด ๆ ไป ก็ได้ เพราะเราได้สั่งสมกรรมทั้งที่ดีและไม่ดี มามาก ในชีวิตประจำวัน จึงได้รับทั้งในสิ่งที่ดี ที่น่าปรารถนาน่าใคร่น่าพอใจบ้าง ได้รับในสิ่งที่ไม่ดี ไม่น่าปรารถนา ไม่น่าพอใจบ้าง ก็เพราะกรรมที่ได้กระทำแล้ว กุศลย่อมให้ผลเป็นสุข ส่วนอกุศลให้ผลเป็นทุกข์ ดังนั้น เมื่อสั่งสมกรรมที่จะให้ผลในภายหน้า ก็พึงกระทำแต่กรรมอันงาม พึงสั่งสมแต่สิ่งทีดีงาม เพราะบุญย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในโลกหน้า .....
|