อยู่ก็ลำบาก ไปต่อก็ยาก นำเข้าเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2560 โดย จุฬา ศรีบุตตะ อ่าน [58547]
ช่วงนี้เป็นเพราะอะไรทำให้คณะของคุณท่านต้องเผชิญปัญหาด้านความน่าเชื่อถือ ความสงสัยในความสุจริต และวิกฤตศรัทธาที่กำลังก่อตัวอย่างน่าห่วง ฐานอำนาจที่เคยให้ยืนปักหลักมั่นใจ เริ่มมีอาการอ่อนไหวยวบยาบ ง่อนแง่น ไม่มั่นคงเสียแล้ว.....
บุญเก่ากำลังหมดไปเพราะได้ใช้ไปมาก ขณะที่ไม่ได้เติมบุญใหม่ แถมมีแต่ละเรื่องทำให้เปลืองตัว ศรัทธาความน่าเชื่อถือของประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับความยั่งยืนของผู้กุมอำนาจรัฐ ถ้าปราศจากสิ่งนี้แล้ว อยู่ยาวต่อไปก็ไร้ความหมาย
คุณท่านผู้นำอาจไม่ได้ก่อปัญหาเอง จนทำให้เกิดความเสื่อมที่เป็นอยู่ แต่เป็นเพราะผู้คนแวดล้อมเป็นพิษและตัวเองไม่จัดการ นอกจากจะแสดงให้เห็นอาการวางเฉย ปล่อยให้ความเสื่อมทรุดเป็นไปโดยพฤติกรรมด้านลบ ก็เหมือนทำด้วยตัวเอง
ทำไมถึงปล่อยให้เหตุการณ์ด้านลบ กระทบต่อความรู้สึกของประชาชนเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และไม่มีทีท่าว่าจะห่วงใย พยายามแก้ไข คำตอบส่วนหนึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ถ้าเปลี่ยนแปลงแล้วจะกระทบความรู้สึกของเพื่อนพ้องน้องพี่ สร้างปัญหาใหม่
หรือเป็นเพราะความลำพองเชื่อมั่นในอำนาจจากการรัฐประหารว่ายังคง เอาอยู่ กับสถานการณ์ต่างๆ มีกฎหมายพร้อมในการควบคุมประชาชน มีอำนาจพิเศษ และกลุ่มมวลชนยังไม่มีผู้นำชัดเจนในการเคลื่อนไหว กระแสด้านลบยังไม่แรงพอ
ท่าทียโสโอหังไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายให้เห็น เพราะคำพูด ลีลา พฤติกรรมของผู้กุมอำนาจแสดงให้เห็นชัด ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก การเสพติดอำนาจจากผลพวงของพฤติกรรมเผด็จการ ความอยากอยู่ในอำนาจนานๆ เป็นธรรมชาติของมนุษย์
ไม่มีใครยอมรับว่าอยากอยู่ในอำนาจยาวนาน เมื่อใดมีคำถามนี้ แสดงว่ามีปัญหาเรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้น ประชาชนเริ่มไม่พอใจคณะผู้กุมอำนาจจึงอยากรู้ท่าที ยิ่งมีคำปฏิเสธว่าไม่อยากอยู่ในอำนาจ ก็เป็นคำตอบในตัว มีความหมายตรงกันข้าม
ความอหังการในอำนาจอาจมาจากสาเหตุอื่นๆ นอกเหนือจากความมั่นใจว่ามีฐานแข็งแกร่งโดยกองทัพ ขณะที่ประชาชนส่วนหนึ่งยังมองไม่เห็นทางเลือกอื่น ยังยินดีที่จะยังอยู่กับผีตัวเดิมที่คุ้นกับพฤติกรรม ดีกว่าไปเสี่ยงกับผีตัวใหม่ที่ไม่รู้จัก
หรือเป็นเพราะแรงกดดันจากต่างประเทศลดลง มีข้ออ้างโรดแหม็บๆ หลอกล่อประเทศตะวันตกว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นแน่ในปีหน้า แต่โดยความเป็นจริง หาคนในประเทศเชื่อยาก กลุ่มเฝ้าติดตามสถานการณ์การเมืองมองเห็นแผนการอยู่ต่ออีกยาว
หวังแบบนั้นได้ แต่จะทำให้เกิดขึ้นได้หรือไม่ในสภาวะวิกฤตศรัทธา ความน่าเชื่อถือ ความรู้สึกไม่ไว้ใจเริ่มก่อตัว ถ้าเป็นก้อนเมฆ ก็เป็นก้อนสีขาวกระจายทั่วท้องฟ้า รอการรวมตัวเป็นเมฆดำก่อนจะเทลงมาเป็นฝนห่าใหญ่ อาจมีพายุนำก็ได้
ปัญหาต่างๆ ได้สร้างความสงสัยในเจตนาของผู้กุมอำนาจรัฐว่ามีความหวังดีต่อบ้านเมืองหรือไม่ เป็นอย่างที่พฤติกรรมฟ้องให้เห็น การใช้กฎหมายเอื้อประโยชน์เฉพาะกลุ่ม การไม่ทำตามกฎหมาย ย่ำยีกฎหมาย ไม่ใส่ใจต่อคำพิพากษาของศาล
เรื่องเจ้าสำนักธรรมกายหนี ปูหนี ร่างกฎหมายธรณีสงฆ์ รวมห่อรัฐวิสาหกิจ นโยบายพลังงาน อภิมหาโครงการต่างๆ ความเสื่อมด้านกลไกกระบวนการยุติธรรม การเล่นพรรคเล่นพวก ขาดหลักธรรมาภิบาลในการโยกย้ายข้าราชการ มาเฟียโล้น
คณะคุณท่านจัดการเรื่องนี้ไม่เป็นที่น่าพอใจของวิญญูชน ยังไม่นับการจัดซื้อจัดจ้างซึ่งมีประเด็นด้านความจำเป็น คุณภาพสินค้า ความโปร่งใส ปัญหาการทุจริต คอร์รัปชันคำโตยังมี เสียงร่ำลือเรื่องเสือหิวฝูงใหม่ฟังดูแล้วน่ากลัวบ้านเมืองล่มจม
นโยบายต่างๆ สร้างความสงสัยว่าเน้นการเอื้ออวยให้กลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มทุนใหญ่ และกลุ่มนักลงทุนข้ามชาติ หวังเงินจากต่างประเทศกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจ ประชาชนเห็นชัดแล้วว่า ศาสตร์พระราชา เศรษฐกิจพอเพียง ยังไม่การปฏิบัติจริง
เป็นเพียงลีลาวาทกรรมกล่อมชาวบ้านในขณะที่เค้นแต่โครงการต่างๆ เพื่อกลุ่มทุนใหญ่ สะท้อนให้เห็นความผิดพลาดในทิศทางการบริหาร การจัดการ ทำให้เด็กนักเรียนไม่มีอาหารกลางวันกิน ขณะที่ประเทศส่งออกข้าวกว่า 10 ล้านตันต่อปี
คุณท่านก็ได้แต่บอกว่าปัญหาต่างๆ เรื้อรังมานานแล้ว มีมาก่อน และทุกวันนี้ก็พยายามแก้ไขอยู่ ขอให้ประชาชนปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่รัฐบาลทำ ว่าต่อไป นั่นนี่โน่น แต่หลายเรื่องชาวบ้านไม่สามารถหลับหูหลับตายอมรับได้ กลิ่นเน่าโชยเกินทน
กรณี ปูหนี ยังไม่มีใครแอ่นอกรับผิดชอบ พฤติกรรมเยี่ยงนี้ไม่เป็นสากล ไม่รับกับการผลักดันให้เป็นประเทศไทย 4.0 ระดับการทุจริตยังไม่ส่อแววว่าจะลด ขณะที่เปิดอ้ารับคนต่างชาติสารพัดประเภทเข้ามาจนเกินเลยความเป็นเออีซีแล้ว
อะไรที่ทำให้คนฐานะระดับต่ำกว่ากลางจนถึงรากหญ้ามองเห็นอนาคต ยังไม่มี เห็นแต่นโยบายต่างๆ เพื่อกระตุ้นตัวเลขจีดีพี ผลสุดท้ายอะไรดีๆ ถูกผันไปเสริมความมั่งคั่งของเจ้าสัวอยู่สุดยอดของประเทศ ตัวเลขการเสียภาษีเงินได้ไม่รู้อยู่ที่ไหน
ว่าถึงเรื่องการเมือง ยังไม่มีอะไรชัดเจน ดูแนวโน้มแล้วว่าอย่างดีที่สุดก็คือการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่อใครก็สุดแล้วแต่ ผู้นำน่าจะเป็นคนเดิมตามที่วางเกมเอาไว้แม้จะมีลีลาตบตาสับขาหลอก สร้างภาพลวง แต่รูปแบบแนวโน้มพฤติกรรมมันฟ้อง
การไม่ใช้อำนาจจัดการปัญหาก็คือปัญหาเรื้อรัง ขณะที่การใช้อำนาจเพื่อสร้างปัญหาใหม่ก็เป็นการซ้ำเติมบ้านเมือง ทำให้คนรู้ทันไม่สงสัยอีกแล้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้ ความมั่นคงของบ้านเมืองจะมีปัญหาเชิงโครงสร้าง ผลสุดท้ายก็จะเกิดวิกฤตร้ายแน่
เว้นแต่จะมีอภินิหารแห่งอำนาจแท้จริงจัดการพวกตัวปัญหาปัจจุบันเท่านั้น!
|