ไทยที่1
นำเข้าเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2560 โดย จุฬา ศรีบุตตะ
อ่าน [58535]  

เอเชียนคอร์เรสปอนเดนต์ - จำนวนผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุจักรยานยนต์ในไทย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยองค์การอนามัยโลกยกเป็นประเทศที่มีความอันตรายต่อผู้ขับขี่ 2 ล้อมากที่สุดในโลก จากข้อมูลพบว่าราว 73 เปอร์เซ็นต์ของผู้เสียชีวิตบนท้องถนนในไทย เกี่ยวข้องกับจักรยานยนต์ ขณะที่ค่าเฉลี่ยรายปีของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจักรยานยนต์อยู่ที่ 5,500 คน หรือ 15 คนต่อวัน รายงานของสเตรทไทม์สบอกว่า แม้จักรยานยนต์เป็นยานพาหนะยอดนิยมในหมู่คนไทย แต่มีผู้ขับขี่เพียง 53 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สวมหมวกกันน็อก พร้อมอ้างข้อมูลพบด้วยว่ามีเด็กเพียง 7 เปอร์เซ็นต์ และคนซ้อนเพียง 19 เปอร์เซ็นต์ที่สวมหมวกกันน็อก ลิวิว เวดราสโก ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย แสดงความเห็นต่อสถานการณ์ดังกล่าวระบุว่า “หากคุณเอาจักรยานยนต์ออกจากสมการ ท้องถนนของไทยจะปลอดภัยพอๆ กับในสวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร” ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกในปี 2015 พบว่าจะมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 26.3 ราย ในทุกๆ 100,000 คนของผู้ขับขี่จักรยานยนต์ในไทย ซึ่งเป็นอัตราสูงที่สุดในโลก เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ได้มีการรณรงค์ Stop the Crash Thailand ในกรุงเทพฯ ซึ่งมุ่งเน้นเทคโนโลยีความปลอดภัยด้านการใช้รถจักรยานยนต์ กิจกรรมที่สอดคล้องกับสัปดาห์แห่งความปลอดภัยบนท้องถนนของสหประชาชาติ กิจกรรมดังกล่าวรวมถึงการสาธิตระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (anti-lock braking system - ABS) และระบบตรวจหาจุดบอด ซึ่งทางฝ่ายจัดเชื่อว่าการช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างมาก “เรายินดีที่รัฐบาลไทยให้ความร่วมมือกับ Stop the Crash แต่เราเรียกร้องพวกเขาให้ออกกฎหมาย เนื่องจากเรามองว่ามันเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับลดจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว” ดาวิด วอร์ด ประธานของ Stop the Crash ระบุ กฎหมายไทยอนุญาตให้เยาวชนอายุ 15 ปีมีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์สำหรับเครื่องยนต์ต่ำกว่า 110 ซีซี อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของศูนย์สร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็กของโรงพยาบาลรามาธิบดี ระบุว่า แต่ละปีมีเด็กราวๆ 15,800 คนที่ประสบอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ ในนั้นเสียชีวิตปรมาณ 700 คน เกี่ยกับเรื่องนี้ เวดราสโกเรียกร้องรัฐบาลไทยใส่ใจกับผู้ขับขี่จักรยานยนต์ “ถ้าคุณต้องการปกป้องชีวิตจริงแล้วละก็ จงทำบางอย่างเกี่ยวกับกลุ่มเสี่ยงนี้” เขากล่าว “กำหนดกฎหมายหมวกกันน็อกอย่างเข้มงวด ทำให้พวกเขาเป็นผู้ขับขี่ที่ปลอดภัยกว่าเดิมผ่านชั่วโมงฝึกหัดเพิ่มเติม เหมือนอย่างจีน ซึ่งจัดสรรเลนพิเศษให้พวกเขาเลย” .....

 

 
กำลังแสดงหน้าที่ 1 จากทั้งหมด 0 หน้า [หน้าถัดไปคือหน้าที่ 2] 1
 

 
เงื่อนไขแสดงความคิดเห็น
1. ทุกท่านมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระเสรี โดยไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ไม่กล่าวพาดพิง และไม่สร้างความแตกแยก
2. ผู้ดูแลระบบขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใด ๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
3. ความคิดเห็นเหล่านี้ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับคณะผู้จัดทำเว็บไซต์

ชื่อ :

อีเมล์ :

ความคิดเห็นของคุณ :
                                  

              * ใส่รหัสจากภาพที่เห็นลงในช่องด้านล่าง และใส่คำตอบจากคำถาม เพื่อยืนยันการส่งความเห็น
  และสำลีสีอะไร
    

          ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการแสดงความคิดเห็นโดยสาธารณชน ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชื่อผู้เขียนที่้เห็นคือชื่อจริง และข้อความที่เห็นเป็นความจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ boyoty999@google.com  เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้