มาแต่ตัว..?? นำเข้าเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2560 โดย จุฬา ศรีบุตตะ อ่าน [58645]
We come into this world with nothing,We leave nothing...... ห้ามเพลิงไว้อย่าให้ มีควัน ห้ามสุริยะแสงจันทร์ ส่องไซร้ ห้ามอายุให้หัน คืนเล่า ห้ามดั่งนี้ไว้ได้ จึ่งห้ามนินทา แปลได้ว่า เมื่อใดที่เราสามารถทำให้ไฟไร้ควัน ห้ามพระอาทิตย์และพระจันทร์ส่องแสง รวมถึงทำให้อายุของเราย้อนกลับคืนมาได้แล้ว เมื่อนั้น เราจึงห้ามการนินทาได้ (เท่ากับแปลว่า การนินทา เป็นเรื่องธรรมดาของโลกนี้นั่นเอง) พระสมุทรสุดลึกล้น คณนา สายดิ่งทิ้งทอดมา หยั่งได้ เขาสูงอาจวัดวา กำหนด จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง แปลว่ามหาสมุทร ต่อให้ลึกสักเพียงใดก็ยังใช้สายดิ่งวัดความลึกได้ ภูเขา ต่อให้สูงสักเพียงใด ก็ยังอาจกำหนดความสูงได้ แต่จิตใจของคนเรานี้ ช่างลึกลับ ซับซ้อน เกินกว่าจะใช้เครื่องมือใด ๆ มาวัดให้หยั่งรู้ได้ รักกันอยู่ขอบฟ้า เขาเขียว เสมออยู่หอแห่งเดียว ร่วมห้อง ชังกัน บ่ แลเหลียว ตาต่อ กันนา เหมือนขอบฟ้ามาป้อง ป่าไม้มาบัง แปลง่าย ๆ ได้ว่า
คนที่รักกัน แม้อยู่ไกลกัน ก็เหมือนอยู่ใกล้กัน แต่คนที่เกลียดชังกันต่อให้อยู่ใกล้กัน ก็เหมือนอยู่ห่างไกลกัน พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา คำแปลของคำศัพท์ในบทประพันธ์ข้างต้น พฤษภ แปลว่า โค, วัว กาสร แปลว่า กระบือ, ควาย กุญชร แปลว่า ช้าง โท แปลว่า สอง ทนต์ แปลว่า ฟัน (โททนต์ จึงหมายถึง งาช้างทั้ง 2 กิ่งนั่นเอง) เสน่ง แปลว่า เขาสัตว์ นรชาติ แปลว่า คน) ทั้งโคลงและคำประพันธ์ข้างต้น แปลได้ว่า สัตว์ต่าง ๆ อาทิ วัว ความ หรือกระทั่งช้าง เมื่อตายไปแล้ว ก็ยังเหลือหนังหรืองาเอาไว้ ซึ่งนำไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้ แต่มนุษย์ เมื่อเสียชีวิตไปแล้ว ร่างกายก็สูญสลายไปทั้งหมด ไม่เหลือสิ่งใดเอาไว้เลย นอกจากความดีและความชั่วที่ได้กระทำไว้ เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น
|