ไม่ฆ่าก็ตาย... นำเข้าเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2560 โดย จุฬา ศรีบุตตะ อ่าน [58544]
.....เทเลกราฟ - นักประวัติศาสตร์คนดังจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งสหรัฐฯ เปรียบเทียบเหตุการณ์ในอดีตกับสถานการณ์ต่างๆในปัจจุุบัน บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากที่สงครามโลกครั้งที่ 3 จะปะทุขึ้น
ศาสตราจารย์ ฮาโรลด์ เจมส์ ของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ระบุชัยชนะในศึกเลือกตั้งของโดนัลด์ ทรัมป์และชาวสหราชอาณาจักรโหวตถอนตัวจากสหภาพยุโรป บ่งชี้ว่าผู้คนกำลังสูญเสียศรัทธาในโลกาภิวัตน์ และผลของมันอาจนำมาสู่ความขัดแย้งระดับโลกครั้งใหม่
"ความรู้สึกนั้นเคยเกิดขึ้นหลังปี 1907 เช่นเดียวกับปี 1930" เขากล่าว "เพราะว่าหลังจากปี 1907 พวกรัฐมนตรีต่างประเทศ รัฐมนตรีกลาโหม หน่วยงานข่าวกรองเริ่มดำเนินการด้านข้อมูล ด้วยความคิดที่ว่าข้อมูลมีความสำคัญอย่างที่สุดสำหรับควบคุมเหตุการณ์ทางทหาร และมันก็คือการแข่งขันด้านอาวุธในแง่ของการควบคุมการสื่อสาร และผมคิดว่าเรากำลังเห็นรูปแบบของการแข่งขันทางอาวุธในเวลานี้"
ขณะเดียวกันทางศาสตร์จารย์เจมส์ ยังพูดถึงกรณีที่พวกสันทัดกรณีทางการเมืองเปรียบเทียบสถานการณ์โลกช่วงปี 1930 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะปะทุขึ้น กับสถานการณ์ทางการเมืองโลกในปัจจุบัน โดยระบุว่า "พวกเขากลัวมากที่จะหยิบยกเอามาเปรียบเทียบกัน แต่ผมคิดว่ามันเป็นการเปรียบเทียบที่ยุติธรรม และคุณจะเห็นบางอย่างที่คล้ายคลึงกันของช่วงปี 1920 และ 1930"
"ตอนนั้นฝ่ายต่างๆที่อยู่ตรงกลางทางการเมืองและตรงกลางของทั้งหมดอยากเปิดกว้าง ยอมรับการค้าและคนเข้าเมือง แต่พวกเขาถูกบีบรัดจากพวกฝ่ายขวาและฝ่ายซ้าย" เขากล่าว พร้อมระบุว่าการเสื่อมถอยของโลกาภิวัตน์คือลางบอกเหตุของความขัดแย้งโลกในอดีต"
"เรากำลังถูกเหวี่ยงกลับอีกครั้งจากยุคที่ทุกคนคิดว่าโลกาภิวัตน์เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สู่ช่วงเวลาที่ผู้คนคิดว่ามีปัญหาใหญ่หลวงในโลกาภิวัตน์ หลายต่อหลายรัฐบาล รวมถึงกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้สันทัดกรณี ประชาชนคนเดินถนนกำลังคิดว่าโลกาภิวัตน์ไม่ได้ผล"
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา พวกนักวิทยาศาตร์ได้ปรับเวลาของนาฬิกาวันสิ้นโลกเข้าใกล้เที่ยงคืนมากขึ้น บ่งชี้พวกเขาเชื่อว่าโลกใกล้เผชิญหายนะเลวร้ายมากขึ้น
"นาฬิกาวันสิ้นโลก" ไม่ใช่นาฬิกาบอกเวลาจริง แต่เป็นเครื่องมือเชิงสัญลักษณ์ที่คิดค้นขึ้นเมื่อปี 1947 โดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นระเบิดและอาวุธนิวเคลียร์ชิ้นแรกๆ ที่ใช้หน้าปัดนาฬิกาแทนมาตรวัดที่บ่งชี้สถานการณ์โลกในแต่ละปีว่ามีความเสี่ยงจะเข้าใกล้หายนะมากน้อยเพียงใด ยิ่งเข็มนาฬิกาบอกเวลาเข้าใกล้เที่ยงคืนมากเท่าใด โลกก็ยิ่งมีความเสี่ยงต่อหายนะสูงมากเท่านั้น
ทั้งนี้เข็มนาฬิกาวันสิ้นโลกอาจถูกปรับให้เดินหน้าหรือถอยห่างจากเวลาเที่ยงคืนได้มากน้อยต่างกันในแต่ละปี ตามที่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ BPA ประเมินสถานการณ์โลกในช่วงนั้นๆ
|