วิธีแบบไทยๆ
นำเข้าเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2560 โดย จุฬา ศรีบุตตะ
อ่าน [58528]  

.....

              วิธีแบบไทยๆ กับโลกที่อันตรายยิ่งขึ้นทุกที/ทับทิม พญาไท รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร อย่างที่ “รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร” ที่ปรึกษารองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ท่านได้ไปพูดที่วิทยาลัยการทัพบก ในงานสัมมนาวิชาการวิทยาลัยสัมพันธ์ครั้งที่ 1/2560 ว่าด้วยเรื่อง “บทบาทชาติมหาอำนาจที่มีผลกระทบต่อยุทธศาสตร์ประเทศไทย” เมื่อวันวานนั่นแหละว่า แนวโน้มของโลกนับจากนี้...มันออกจะเป็นโลกที่ “อยู่ยาก” หรือ “โลกที่อันตราย” ยิ่งขึ้นทุกที ประมาณนั้น...ด้วยเหตุเพราะ “การแข่งขันของประเทศมหาอำนาจที่กำลังเป็นไปในแบบเข้มข้นยิ่งขึ้นเรื่อยๆ.

         ..” ส่วนหนึ่งในคำพูดหรือคำบรรยายของ “ดร.ปณิธาน” ที่เว็บไซต์ “กรุงเทพธุรกิจ” เขานำมาถ่ายทอดระบุเอาไว้ดังนี้... “ถ้าหากเรายืนอยู่ตรงกลางได้ก็ดี...แต่สุดท้าย เราคงหนีไม่พ้นต้องเจอกับความพยายามที่จะฉุดดึงให้เราไปอยู่ในข้างหนึ่ง ข้างใด อย่างช่วงนี้...สหรัฐฯ มาซ้อมรบคอบบร้าโกลด์กับกองทัพไทย จีนก็ไม่สบายใจ ที่สหรัฐฯ มาแสดงแสนยานุภาพในพื้นที่บริเวณนี้ ขณะเดียวกันเมื่อเรือดำน้ำจีนเข้ามาในไทย สหรัฐฯ ก็เป็นกังวล ไม่อยากให้จีนเข้ามาป้วนเปี้ยนในบริเวณนี้เช่นกัน แต่ไทยเป็นประเทศที่อยู่ตรงกลาง เมื่อมีสองมหาอำนาจเข้ามา เราก็คงต้องใช้วิธีแบบไทยๆ คือพยายามเชื่อมสัมพันธ์ที่ดีกับทุกฝ่าย ซึ่งถ้าเราทำสำเร็จ...ก็จะเป็นผลดี

             เนื่องจากเราไม่อยากมีปัญหากับใคร แต่การดำเนินการตามกรรมวิธีเช่นนี้ ย่อมทำให้เราทำงานยากขึ้น ต้องตอบคำถามมากขึ้น ว่าทำไมเราจะต้องซ้อมรบกับอเมริกา ทำอย่างไรถึงจะไม่ให้กระทบกับจีน...” นี่...เรียกว่า ชั่งเป็นอะไรที่น่า “บวดหัว” ชนิดยา “บวดหาย” แทบเอาไม่อยู่ หรือคงไม่แพ้ไปจากฉากสถานการณ์ในช่วง “สงครามโลกครั้งที่สอง” โน่นเลย คือถึงอยากจะยืนโด่เด่อยู่ตรงกลาง หรือ “เป็นกลาง” แบบไหน อย่างไร สุดท้าย...หนีไม่พ้นต้องยอมหันไป “จูบปาก” กับญี่ปุ่นจนได้ ถึงพอช่วยไม่ให้ถูก “ข่มขืนกระทำชำเรา” แบบประเทศรอบข้างบางประเทศ ที่ถูกโทรมซะจนมดลูกแทบพัง... ด้วยเหตุนี้...ความพยายามยืนโด่เด่อยู่ตรงกลาง หรือ “ความเป็นกลาง” นั้น

          โดยประวัติศาสตร์ข้อเท็จจริง หรือโดยโลกแห่งความเป็นจริง เอาไป-เอามาแล้ว มันแทบเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เป็นเรื่องที่ไม่มีอยู่จริง ได้แต่เพ้อๆ ฝันๆ กันไปตามเรื่องตามราว และบรรดาที่ผู้คิดจะเป็นกลางโดยส่วนใหญ่ ก็มักเป็นผู้ที่ไปทาง “กลาง-กลวง” ไปด้วยกันทั้งสิ้น คือไม่ได้เป็นผู้ที่มีความละเอียดลึกซึ้งในการมองโลก หรือกระทั่งมองตัวตนของตน ด้วยความเข้าใจลงไปในระดับแก่นสาระแห่งความเป็นโลก หรือความเป็นตัวตนของตน ออกไปทางประเภท “ครอก์ก์ก์” หรือประเภทคิดจะ “เอาตัวรอด” ไปวันๆ อะไรประมาณนั้น... สิ่งที่เรียกว่า “ยุทธศาสตร์ชาติ” หรือจะเป็นยุทธศาสตร์สำหรับตัวตนของใครต่อใครก็แล้วแต่ จึงหนีไม่พ้นที่จะต้องค้นหาความละเอียดลึกซึ้งในการมองโลก

              มองตัวตนของตนให้ชัดเจนแจ่มแจ้งให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จนสามารถที่จะแยกแยะได้ว่า อะไรคือ “ธรรมะ” อะไรคือ “อธรรม” อะไรคือสิ่งที่ควรมุ่งไปสู่ อะไรที่ควรยึดถือเป็น “เข็มมุ่ง” และ “เป้าหมาย” ส่วนไอ้เรื่อง “แพ้” หรือ “ชนะ” นั้น...ถือเป็นเรื่องชิวๆ ธรรมดาๆ ในเมื่อแพ้ได้ ย่อมต้องชนะได้ และในเมื่อชนะได้ ก็ย่อมต้องแพ้ได้ เพราะสิ่งที่สำคัญเหนือไปกว่าชัยชนะและความพ่าย แพ้ นั่นก็คือ “ความเป็นธรรม” อันถือเป็นสุดยอดปรารถนาไม่ว่าต่อปัจเจกบุคล สังคม ประเทศชาติ ไปด้วยกันทั้งสิ้น การหันมาพินิจพิจารณาแนวโน้มความเป็นไปของโลก ความเป็นไปของมหาอำนาจแต่ละราย ด้วย “สติ” และ “ปัญญา” อันละเอียดลึกซึ้ง ว่ารายใดที่ให้คุณค่า ความสำคัญต่อสิ่งที่เรียกว่า “ความเป็นธรรม” มาก-น้อยไปกว่ากัน รายใดที่พยายามก้าวเดินไปตามครรลองคลองธรรม

            ตามสภาพแวดล้อมข้อเท็จจริงในแต่ละห้วง แต่ละระยะอันนั้นนั่นแหละ...ที่อาจถือเป็น “คำตอบ” ที่ดีที่สุด แถมยังอาจช่วยยกระดับ พัฒนา สิ่งที่เรียกว่า “วิธีแบบไทยๆ” ให้กลายเป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับในระดับ “สากล” เอาเลยก็ไม่แน่ ไม่ใช่กลายเป็น “ความครอกก์ก์ก์” หรือความพยายามที่จะ “เอาตัวรอด” ไปวันๆ อย่างที่ใครต่อใครยังมึนซ์ซ์ซ์ๆ งงง์ง์ง์ๆ มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง และยังมึนซ์ซ์ซ์ไม่เสร็จ แม้ตราบเท่าทุกวันนี้ แม้แต่ “คนไทย” ด้วยกันเองก็เถอะ...มันถึงได้ส่งผลให้อะไรต่อมิอะไรในสังคมไทย ต้องวนไป-วนมาอยู่ภายใต้ “วงจรอุบาทว์” มาเกือบจะครบศตวรรษเข้าไปแล้ว!!!

 

 
กำลังแสดงหน้าที่ 1 จากทั้งหมด 0 หน้า [หน้าถัดไปคือหน้าที่ 2] 1
 

 
เงื่อนไขแสดงความคิดเห็น
1. ทุกท่านมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระเสรี โดยไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ไม่กล่าวพาดพิง และไม่สร้างความแตกแยก
2. ผู้ดูแลระบบขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใด ๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
3. ความคิดเห็นเหล่านี้ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับคณะผู้จัดทำเว็บไซต์

ชื่อ :

อีเมล์ :

ความคิดเห็นของคุณ :
                                  

              * ใส่รหัสจากภาพที่เห็นลงในช่องด้านล่าง และใส่คำตอบจากคำถาม เพื่อยืนยันการส่งความเห็น
  และสำลีสีอะไร
    

          ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการแสดงความคิดเห็นโดยสาธารณชน ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชื่อผู้เขียนที่้เห็นคือชื่อจริง และข้อความที่เห็นเป็นความจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ boyoty999@google.com  เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้