มนุษยชาติจะมีชีวิตรอดไปได้อีก 1,000 ปี นำเข้าเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2559 โดย จุฬา ศรีบุตตะ อ่าน [58530]
..... คราวนี้มาถึงเรื่องคำเตือนของนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่คือ สตีเฟน ฮอว์คิง (วัย 74 ปี) ซึ่งเป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีและนักจักรวาลวิทยา ในตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ไม่ทราบว่าเป็นผลมาจาก “ทรัมป์เอฟเฟกต์” หรือไม่ ทำให้สตีเฟน ฮอว์คิง ได้แสดงปาฐกถานาน 1 ชั่วโมงเมื่อวันที่ 15 เดือนพฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ผู้โด่งดังท่านนี้ได้ออกมาเตือนชาวโลกในประเด็นสาธารณะอยู่บ่อยๆ ก่อนจะขึ้นปี ค.ศ. 2000 ไม่กี่ชั่วโมง ในขณะที่ชาวโลกกังวลเพราะถูกหลอกในเรื่อง Y2K
สตีเฟน ฮอว์คิงได้เตือนชาวโลกเรื่องอันตรายของจีเอ็มโอ หรือการตัดต่อพันธุกรรม เพราะหากพันธุกรรมปนเปื้อนไปแล้วไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ รวมทั้งไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ในปี 2006 เขาได้ส่งข้อความในอินเทอร์เน็ตว่า “ในโลกที่มีความโกลาหล (Chaos) ทั้งด้านการเมือง สังคม และสิ่งแวดล้อม ทำอย่างไรมนุษยชาติจึงจะยั่งยืนในอีก 100 ปีข้างหน้า” ซึ่งต่อมาเขาได้ตอบคำถามของเขาเองว่า “ผมก็ไม่ทราบ แต่ที่ตั้งคำถามไปก็เพราะต้องการให้คนมาคิดถึงเรื่องนี้ และระมัดระวังถึงอันตรายที่มนุษย์กำลังเผชิญอยู่” ในคราวนี้ (15 พ.ย. 2559)
ศาสตราจารย์ฮอว์คิง ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า “ผมไม่คิดว่ามนุษยชาติจะมีชีวิตรอดไปได้อีก 1,000 ปีหากไม่หนีออกไปจากโลกที่บอบบางของเรา” โดยมีสาเหตุสำคัญ 3 ประการคือ (1) ปัญหาโลกร้อน (2) สงครามนิวเคลียร์ และ (3) ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence- ซึ่งหมายรวมไปถึงชีวิตประดิษฐ์ด้วย) สำหรับประเด็นการหาโลกใหม่ในกาแล็กซีหรือในจักรวาล เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยของเขาในฐานะนักจักรวาลวิทยา นอกจากนี้ยังพบว่างานวิจัยขององค์การนาซา และโครงการของมหาเศรษฐี Elon Musk (เจ้าของ Tesla) ที่จะส่งคนไปนอกโลกก็มีวัตถุประสงค์คล้ายๆ กัน ผมเองไม่มีความรู้ในเรื่องนี้และไม่ค่อยเห็นด้วยกับความพยายามดังกล่าวครับ
|