ต้องทำตั้งแต่วันนี้
นำเข้าเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2559 โดย จุฬา ศรีบุตตะ
อ่าน [58543]  

.....

คอร์รัปชัน, ต่อต้าน, นายกฯ, ยุทธศาสตร์ 20 ปี, โกง

 

 

 

 

 

 

 

 

                    11 ก.ย. 59 เมื่อเวลา 18.00 น. ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานงานวันต่อต้านคอร์รัปชันแห่งชาติ 2559 และกล่าวปาฐกถาพิเศษ "มาตรการจัดการ การคอร์รัปชันของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม" โดยมี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่าต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) รวมถึงเครือข่ายองค์กรต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน และประชาชน เข้าร่วมงานกันอย่างคึกคัก

                      โดยนายกฯ กล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า เรื่องทุจริตเป็นกับดักที่สำคัญของประเทศ ทำให้ประเทศก้าวหน้าไปได้ช้า เกิดความขัดแยก แตกแยก สังคมมีปัญหาไปทั้งหมด ไม่ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ วันนี้เราต้องดูว่าจะเดินหน้าประเทศไปอย่างไร เราแก้ปัญหามา 40 ปี แต่ยังเหมือนเดิม ต้องหาวิธีใหม่ ให้การแก้ปัญหามีผลสัมฤทธิ์ รัฐบาลนี้ทำทุกอย่าง การแก้ปัญหาทุจริตเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่อยู่ในรัฐบาล ประเทศประสบปัญหานี้มานาน และรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึง 22 พ.ค. 57 เป็นหน้าที่ที่เราต้องแก้ไข ไม่ได้เข้ามาเพื่อจับผิดใคร หรือแกล้งใครอย่างที่ถูกกล่าวหา กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย สำหรับโรดแมปในระยะที่ 3 ซึ่งเป็นการส่งมอบ การทุจริตก็ต้องน้อยลง หรือไม่มีเลย

                ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาทุจริตอย่างเดียว รวมถึงกระบวนการ ภาคประชาชนต้องมีส่วนร่วมได้ แม้ตนเป็นรัฐบาลแบบนี้ต้องใช้วิธีการบริหารราชการแบบนี้ ฟังทุกพวก เพราะไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง เรื่องของการทุจริตทุกอย่างต้องปล่อยให้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม เราปล่อยปละเลยมานาน ซึ่งการทุจริตไม่ใช่แค่เรื่องเงินทองเท่านั้น ยังรวมไปถึงการทำผิดกฎหมายอย่างอื่น อย่างการขายของผิดที่ผิดทาง เหล่านี้ถือว่าทุจริต สิ่งเหล่านี้เข้าใจดีว่า เมื่อเข้าไปแก้ไขปัญหาทำให้เกิดความขัดแย้งสูงก็ต้องทำเพื่อปรับระบบ จะได้มีการพัฒนาที่เท่าเทียมกัน ถ้าไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย ความเดือดร้อนจะมีมากขึ้นไปเรื่อย ๆ การทาบทับอำนาจรัฐ รัฐบาลนี้ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนยุติธรรม แม้จะมีอำนาจตามมาตรา 44 ที่ชี้เป็นชี้ตายได้ ตนก็ไม่เคยทำ และต่อไปก็จะไม่มีมาตรา 44 แล้ว การแก้ไขปัญหาต้องอยู่บนกฎหมายสากล และบนความร่วมมือของประชารัฐ การแก้ไขปัญหาโดยใช้กฎหมายจะไม่มีวันจบ ต้องแก้ไขปัญหาอย่างอื่นด้วย เช่น การแก้ไขปัญหาความยากจน ลดการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม ความไม่พอเพียง และการศึกษา ถ้าคนรวยนั่งรถหรูเห็นคนยากจนนั่งอยู่ข้างถนนแล้วยังรู้สึกว่าตัวเองสบายดี มันก็ไม่มีวันแก้ปัญหาได้ ทุกอย่างเป็นห่วงโซ่ ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม ต่างประเทศ ปัญหามันทับซ้อนกันอยู่ เวลานี้มีคนมาร้องเรียนตนว่า เรื่องของการอำนวยความสะดวกยังมีการเก็บเงิน ตนกำลังให้สอบอยู่ ถ้าพบว่า มีความผิดมีโทษไล่ออกอย่างเดียว

                     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาการแก้ทุจริตต้องทำตั้งแต่วันนี้ ซึ่งอยู่ในแผนการปฏิรูป 20 ปีของรัฐบาล และอีก 20 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะปราศจากทุจริต หากทุกฝ่ายร่วมกัน และประชาชนให้กำลังใจให้คนดีเข้ามาทำงาน ส่วนการใช้กฎหมายนั้นรัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังกดประชาชน ไม่ได้ให้เชื่อฟัง แต่กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งทุกคนควรต้องรู้เท่าทัน จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะไม่ต้องการให้คนไม่รู้เรื่อง และคนยากจนต้องไปเข้าไปรับโทษ รัฐบาลทำกฎหมายออกมาเพื่อป้องกันและจัดการกับทุกคน ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ คนเสนอ และคนรับ อย่างเท่าเทียมกัน หลายส่วนอาจจะต้องการความสะดวก และเข้าหาเจ้าหน้าที่ รัฐจึงต้องป้องกันตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง แต่ต้องให้เวลารัฐบาลในการแก้ไขเพราะปัญหาสะสมมานาน บางคดีเมื่อศาลตัดสินแล้วควรเคารพกระบวนการยุติธรรม อย่าทำตัวเหมือนบางคนที่ไม่ยอมรับการตัดสินและเห็นด้วยต่อเมื่อศาลตัดสินเข้าข้างตัวเอง

 

                    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนข้าราชการอย่าคิดว่าทำอะไรแล้วจะไม่มีใครรู้ เพราะประชาชนจับตามองอยู่ ที่ผ่านมารัฐบาลเน้นย้ำเรื่องธรรมาภิบาลในการทำงานให้โปร่งใส และขณะนี้มี พ.ร.บ.อำนวยความสะดวก คอยดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่ไม่ปฏิบัติตาม ที่ผ่านมาประชาชนไม่ชอบราชการเพราะไม่เป็นมิตร จึงต้องปรับเปลี่ยน ทั้งนี้การแก้ทุจริตต้องทำทั้งระบบและต่อเนื่อง มิเช่นนั้นประเทศจะเสื่อมถอย กลายเป็นรัฐล้มเหลว อย่างไรก็ตามวันนี้ต้องสร้างสื่อรูปแบบใหม่ คือไม่วิพากษ์วิจารณ์โดยใช้ความคิดของตัวเอง เพราะสื่อทุกวันนี้เป็นไปในลักษณะนี้จึงขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะเลือกรับและต้องสร้างจิตสำนึกใหม่และประชาชนต้องเป็นหูเป็นตาเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน อย่าให้ใครมาบิดเบือนหรือชี้นำได้

                     นายกฯ กล่าวว่า เราเป็นประเทศประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่เราไม่ใช่สังคมนิยมประชาธิปไตย อย่าคิดว่าทำไมไม่ทำแบบนี้แบบนั้น เพราะประเทศเราเป็นแบบนี้ก็ต้องแก้ปัญหาแบบนี้ อย่ามองว่าประเทศอื่นทำไมทำได้ เพราะเขาไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบของเรา มันอยู่ที่วิธีการของเรานั่นคือการเลือกคนดีในการปกครองบ้านเมือง และประชาชนต้องให้ความร่วมมือรัฐบาล เป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแส ตนก็ฟังข้อมูลจากท่าน ทั้งจากหนังสือพิมพ์ ข้าราชการ และการประชุม ครม. รับหมดทุกปัญหา อย่าบอกว่าไม่ฟังใคร ฟังเยอะก็ทำเยอะ ทุกคนต้องร่วมมือกับรัฐบาลและ คสช.ในเวลานี้ เพราะเป็นช่วงสำคัญ ทำกลไกกระบวนการต่าง ๆ ให้เดินหน้าได้อีก 20 ปีข้างหน้า อย่าไปมองเรื่องต่อท่ออำนาจ ท่ออะไรยังไม่รู้เลย ตนไม่อยากได้ประโยชน์อะไร ทุกวันนี้ต่างชาติอิจฉาไทยที่อัตราการว่างงานน้อยที่สุด ถ้ากฎหมายต่าง ๆ ออกมาเร็วกว่านี้วันนี้คงสร้างคุกกันไม่ทัน ถ้าจะทำให้คนไม่ล้นคุกต้องทำให้คนเข้มแข็ง

 

 

 
กำลังแสดงหน้าที่ 1 จากทั้งหมด 0 หน้า [หน้าถัดไปคือหน้าที่ 2] 1
 

 
เงื่อนไขแสดงความคิดเห็น
1. ทุกท่านมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระเสรี โดยไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ไม่กล่าวพาดพิง และไม่สร้างความแตกแยก
2. ผู้ดูแลระบบขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใด ๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
3. ความคิดเห็นเหล่านี้ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับคณะผู้จัดทำเว็บไซต์

ชื่อ :

อีเมล์ :

ความคิดเห็นของคุณ :
                                  

              * ใส่รหัสจากภาพที่เห็นลงในช่องด้านล่าง และใส่คำตอบจากคำถาม เพื่อยืนยันการส่งความเห็น
  และสำลีสีอะไร
    

          ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการแสดงความคิดเห็นโดยสาธารณชน ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชื่อผู้เขียนที่้เห็นคือชื่อจริง และข้อความที่เห็นเป็นความจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ boyoty999@google.com  เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้