เมื่อจิ๊กโก๋ถูกหมีและมังกรตะปบ (2)
.....
เวลาที่ลุงแซมยิ้มหวานหยาดเยิ้มมาเซย์ฮัลโหลกับชาติไหนอย่างสนิทสนมป็นพิเศษ ให้สำนึกสำเหนียกไว้นิดหนึ่งว่าจะต้องมีอะไรบางอย่างไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรหรือทำเลชัยภูมิเหมาะสมในประเทศนั้นที่สามารถเอื้อประโยชน์ให้ลุงแกได้ ถึงทำให้นกอินทรีหัวล้านกระพือปีกพั่บๆ บินมาโอบไหล่พลางเขย่ามืออย่างผูกมิตร โปรดระวังไว้ว่าแม้มือหนึ่งจะยื่นมาโอบบ่าแต่อีกมือถืออาวุธเตรียมถล่มได้ทุกเมื่อ หากว่าประเทศนั้นไม่ยอมเดินตามเกมของลุงแซม
เวลาที่ลุงแซมตาโตอยากได้สมบัติบ้านใคร โดยเฉพาะประเทศในโลกที่สามที่มักมีปัญหาการเมืองการปกครองที่ยังไม่เสถียร ก็จะประโคมข่าวผ่านสื่อที่ตนคุมไว้ในมือว่าประเทศนั้นยังไม่มีประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ เผลอๆก็ยัดข้อหาว่ามีอาวุธร้ายแรงในครอบครอง เช่น อาวุธชีวภาพหรือนิวเคลียร์อันเป็นภัยต่อชีวิตเป็นพิษต่อสังคมโลก ตามมาด้วยข้อหาเด่นๆ อีกข้อคือปกครองด้วยระบอบเผด็จการและมีผู้นำเป็นเผด็จการ จากนั้นก็จะให้ความร่วมมือทุกทางกับกลุ่มไหนก็ได้ที่ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองโดยให้คนในประเทศนั้นฆ่ากันเอง อาจจะผ่านทางหัวคิวนักการเมืองที่เสียประโยชน์มาช่วยกะเกณฑ์ไพร่พลให้ก่อสงครามกับอีกฝ่ายหนึ่ง ยิ่งรัฐบาลเข่นฆ่าปราบปรามประชาชนยิ่งเข้าแผนลุงแซม เพราะจะได้ลอยหน้าบอกชาวโลกว่า
"เห็นมั้ยล่ะ ไอบอกแล้วว่าไอ้รัฐบาลประเทศนี้มันเผด็จการที่สุด จำเป็นที่พวกเราชาวมะริกันต้องไปสั่งสอนให้คนในประเทศนั้นเรียนรู้ว่าประชาธิปไตยอย่างแท้จริงเป็นอย่างไร"
จากนั้นลุงแซมก็ทำตัวเป็นฮีโร่ผู้พิทักษ์ประชาธิปไตยโบกธงนำฝูงนกอินทรีหัวล้านติดอาวุธเคลื่อนกองกำลังเข้ามา “ช่วย” จนวอดวายไปทั้งประเทศในเวลาต่อมา
กรณีซีเรียนี่ก็เดินหมากนี้เป๊ะๆ ลุงแซมน่าเบื่อตรงที่ไม่ค่อยเปลี่ยนยุทธวิธีในการลวงตาชาวโลก แผนไหนเคยใช้ก็จะบี้ตะบันใช้ทำร้ายชาวบ้านร้านถิ่นมาเรื่อยจนชาวบ้านเอือมระอากันหมดแล้ว ลุงแซมส่งเครื่องบินไปถล่มซีเรียโดยอ้างว่าจะไปปราบกลุ่มก่อการร้ายไอเอสหรือไอซิส แต่จริงๆ แล้วแอบเติมเงินและคอยสนับสนุนให้กลุ่มกบฎทุกฝ่ายไม่ว่าจะชั่วน้อย ชั่วปานกลาง หรือชั่วมากบุกเข้าไปอัดรัฐบาลอัลอัสซาด ซึ่งเจอข้อกล่าวหาสารพัดว่ามีอาวุธเคมีในครอบครอบ แบบเดียวกับที่อเมริกาเคยบอกชาวโลกว่าอิรักมีอาวุธนิวเคลียร์ร้ายแรงในครอบครอง หากอัดรัฐบาลอัลอัสซาดจนเด้งจากตำแหน่งได้สำเร็จ ก็เท่ากับว่าซีเรียได้อยู่ในกำมือของลุงแซมและบรรดาลูกหาบทั้งหลายโดยสิ้นเชิง แต่เหตุการณ์กลับพลิกผัน หาได้เป็นอย่างที่ลุงแซมบวกลบคูณหารคาดการณ์เอาไว้ไม่
พี่หมีขาวกับเฮียมังกรไม่พูดพร่ำทำเพลง แต่ย่องมาซ้อมรบกันในทะเลเมติเตอร์เรเนียนแล้วเคลื่อนพลไปประชิดซีเรีย จากนั้นพี่หมีขาวก็ประกาศสงครามกับไอเอสทันที โดยกระชากหน้ากากของลุงแซมให้โลกรับรู้ในการกระชุมยูเอ็นว่าลุงแซมตอแหลขนาดไหน ปากพูดปาวๆ บอกโลกว่าเข้าไปปราบไอเอสแต่กลุ่มไอเอสกลับเพิ่มขึ้นและข่มขุ่คุกคามชาวบ้านขึ้นทุกทีๆ ว่าแล้วฝุงหมีขาวก็ขี่เครื่องบินไปหย่อนระเบิดตูมตามลงกลางเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ผลคือผู้ก่อการร้ายไม่ว่าสายไหนก็แตกตื่นหนีตายอลหม่าน หลังจากซีเรียกลายเป็นเขตนี้พี่หมีขาวคุม นาโต้และและลุงแซมก็ได้แต่ยกหัวเข่าเช็ดน้ำตาระหว่างกันพลางทอดถอนใจอยู่ไปมา เพราะไม่สามารถเดินอาดๆ เข้าไปสูบอะไรต่อมิอะไรจากอิรักและซีเรียได้อีก เพราะพี่หมี เฮียมังกร และอิหร่านย่างสามขุมไปคุมเชิงไว้หมดแล้ว ในขณะที่อียิปต์กับจอร์แดนก็โผเข้ไปหาอ้อมอกแกร่งๆ ของพี่หมีขาวอย่างค่อนข้างชัดเจน
การเลือกข้างของอียิปต์มีความสำคัญมากเพราะคุมเส้นทางการเดินเรือที่คลองสุเอซเอาไว้ด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ ลุงแซมเลยบินไปเกาะคอนบนหลังคาบ้านหมอผี แคเมอรูนแล้วประกาศสงครามกับพวกโบโกฮาราม เพื่อยึดหัวหาดฝั่งแอฟริกาตะวันตกนั่นเอง เพราะลุงแกเสียผลประโยชน์ในตะวันออกกลางไปมากโขแล้ว มิหนำซ้ำยังบีบให้บรรดาลูกหาบในยุโรปรับกรรมแบบไม่ต้องแบไปตามกัน ด้วยการแอ่นอกแบกรับภาระผู้ลี้ภัยจากตะวันออกกลาง ซึ่งจำนวนผู้อพยพในเวลานี้มีมากกว่า 750,000 คนแล้วในยุโรป ทำให้เกิดวิกฤติการทางสังคม การเมืองและเศรษฐกิจตามมาแบบทันตาเห็น
เมื่อไม่นานมานี้ ทั้งโลกต้องตกตะลึงเมื่อเครื่องบินของสายการบินรัสเซียถูกสอยร่วงเหนือน่านฟ้าอิยิปต์ โดยมีกลุ่มก่อการร้ายไอเอสกระโดดโลดเต้นมารับทันทีว่า
"ฝีมือกูเองแหละ"
กลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นในอียิปต์ซึ่งมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียและอิรักเผยแพร่คำแถลงที่อ้างว่ากลุ่มของตนอยู่เบื้องหลังการตกที่คาบสมุทรไซนายของเครื่องบินโดยสารแอร์บัส เอ 321 ของสายการบินเมโทรเจ็ตของรัสเซีย เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 224 ชีวิตบนเครื่องเสียชีวิตยกลำเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
น่าแปลกใจเหลือเกินที่มีรายงานข่าวออกมาว่าจรวดที่สอยเครื่องบินโดยสารรัสเซียคือจรวดสตาร์บรัสเมดอินอิงแลนด์ ที่ฝรั่งสัญชาติผู้ดีเคยส่งให้ซาอุดิอาระเบียและคูเวตไปใช้ แล้วเหตุใดพวกไอเอสถึงมีจรวดชนิดนี้ในครอบครอง อย่าลืมว่า
ซาอุดิอาระเบียนั้นเหมือนหมาน้อยที่ลุงแซมจะสั่งให้กระดิกหางหรือหันหน้าหันหลังอย่างไรก็ได้ในตะวันออกกลาง เพราะหากินร่วมกันจนล่ำซำมานาน การที่จรวดนี้ไปตกในกำมือของไอเอสได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าคิดไม่ใช่น้อย
อีกเรื่องซึ่งน่าแปลกใจไม่แพ้กัน เครื่องบินรัสเซียลำนั้นถูกสอยร่วง หลังจากที่นายเอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมอเมริกาออกมาเตือนว่ารัสเซียจะประสบกับหายนะในการทำสงครามในซีเรีย จากนั้นเครื่องบินลำนี้ก็ถูกยิงร่วงในเวลาต่อมา
จะว่าไปอีตาคาร์เตอร์นี่ก็แสบไม่ใช่เล่น เพราะออกมาแถลงแนวแข็งกร้าวกล่าวหาชาวบ้านชาวช่องไปทั่วว่า พวกรัสเซียเองก็สารเลวไม่ต่างไปจากพวกไอเอสหรอก แถมยังก้าวร้าวคุกคามยูเครนและเพื่อนบ้านเล็กๆ แถวบอลข่าน แล้วนี่ยังสยายอุ้งตีนมาครอบงำซีเรียอีก โอ๊ย ทำแบบนี้เท่ากับทำลายระเบียบโลกเสรี (ของลุงแซม) เห็นๆ ไอยอมไม่ด๊ายยยย
ว่าแล้วก็หันไปถ่มถุยใส่พี่หมีขาวต่อว่า รัสเซียจ้องถล่มอเมริกาด้วยนิวเคลียร์อย่างแน่นอน ดังนั้นพวกไอจึงจำเป็นต้องติดเขี้ยวเล็บเพื่อรับมือกับอุ้งตีนหมีขาวที่จะเอื้อมมาตะปบพวกไอ ด้วยการเพิ่มและปรับปรุงอาวุธนิวเคลียร์ของลุงแซมเองบ้าง รวมถึงการรบรูปแบบใหม่ทั้งสงครามไซเบอร์และสงครามวิถีไกล บลาๆๆๆๆ โดยยืดอกตบท้ายว่า
"ชาวโลกทั้งหลายจงฟัง พวกเราเหล่านกอินทรีไม่ได้อยากเป็นศัตรูกับหมีขาวและมังกรเลยแม้แต่น้อย แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเองเพื่อไม่ให้หมีขาวแอบมาถอนขนจนโกร๋น ที่สำคัญ นกอินทรีหัวล้านจะล้านไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว เราจำเป็นต้องจัดระเบียบโลกเพื่อพวกเราชาวโลกทุกคน..ยูโน๋ว์"
เออ นั่นลื้อพูดเองเออเองอีกแล้วนะ ลุงแซม ยังไม่พอ คาร์เตอร์ไม่วายหันไปอัดอาเฮียมักกรจีนนิดหนึ่งตามสันดานว่า การที่มังกรเลื้อยมากบดานอ้างสิทธิ์ในเกาะสแปรดลีย์นั้นถือเป็นภัยต่อชาวเอเซียทั้งปวง ดังนั้นนกอินทรีจึงจำเป็นต้องบินไปปกป้องชาวเอเซียผู้น่าสงสารเพื่อปรับดุลภาพทางอำนาจในเอเซียแปซิฟิค เล่นเอาชาวเอเซียทั้งหลายเบื้อใบ้ไปตามกันว่า
"ลุงแซมมายุ่งอะไรแถวรั้วบ้านอั๊วนักหนาวะ..."
(โปรดอ่านต่ออังคารหน้า)