ต้อนรับเทศกาลฮาโลวีน ตามแบบฉบับ Life on campus ความหลอนระดับมหาวิทยาลัย ที่วันนี้เราจะพาไปชม 7 มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วโลก ถึงความน่าสะพรึงกลัว และตำนานความสยองขวัญของเหล่าภูตผีวิญญาณที่ยังคงวนเวียนอยู่ภายในมหาวิทยาลัย ไปชมกันว่าเรื่องราวของมหาวิทยาลัยสยองที่ขึ้นชื่อว่าหลอนที่สุดในโลกจะมีมหาวิทยาลัยไหนบ้าง
อันดับที่ 7 : มหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮม (Fordham University)
|
|
http://static.panoramio.com |
|
|
เรื่องผีและตำนานความสยองในมหาวิทยาลัย อันดับที่ 7 เป็นของมหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮม ในรัฐนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1841 รวมแล้วมีอายุกว่า 174 ปี ถือเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเก่าแก่และสวยงามมากแห่งหนึ่ง แต่ภายใต้ความสวยงามนั้นกลับเต็มไปด้วยเรื่องเล่าสุดสยอง และเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงความเฮี้ยนของเหล่าวิญญาณ ที่สิงสถิตอยู่รอบ ๆ มหาวิทยาลัย
มือน้ำแข็งที่ Keating Hall มีเรื่องเล่าว่าความหลอนจะอยู่ที่ชั้นสาม ของ Keating Hall บรรดานักศึกษาที่ประสบเหตุมักจะสัมผัสได้ถึงมืออันเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งมาเกาะที่ไหล่ แต่พอหันไปดูก็ไม่พบว่ามีใครอยู่ตรงนั้นเลย
|
|
jaypiamonte.blogspot.com |
|
|
ผีสาวในห้องน้ำ Martyrs' Court ตึกพักนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮม ที่มักจะได้ยินเสียงร่ำลือว่า มีผีสาวผมบรอนซ์ที่สิงสถิตอยู่ในห้องน้ำ บางคนก็อาจจะได้ยินเสียงคนอาบน้ำอยู่แต่พอเดินไปดูก็กลับไม่พบใครเลย
Finlay Hall อดีตห้องเก็บศพ หลายปีก่อนที่จะสร้าง “Finlay Hall” สถานที่แห่งนี้เคยเป็นห้องเก็บศพ ของโรงพยาบาลมาก่อน มีล็อฟท์สำหรับนักศึกษาแพทย์ที่สามารถมองลงไปด้านล่างเพื่อดูการผ่าตัดที่กำลังเกิดขึ้นได้ และเหตุการณ์ชวนขนลุกก็เกิดขึ้น เมื่อนักศึกษาที่อาศัยอยู่บนล็อฟท์เล่าว่าพวกเขามักจะตื่นขึ้นมากลางดึก และมองลงไปด้านล่างก็จะเห็นคนตายอยู่ที่นั่น บางคนก็เล่าว่าพวกเขาต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะรู้สึกว่ามีมือที่เย็นเฉียบกำลังบีบคอพวกเขาอยู่
อันดับที่ 6 : มหาวิทยาลัยนางาซากิ (Nagasaki University)
|
|
http://36.media.tumblr.com |
|
|
เกือบ 70 ปี แล้วจากการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่จากระเบิดปรมาณู ที่นางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น ประชาชนทั้งโลกไม่เคยลืม ภาพความเจ็บปวดของผู้เสียชีวิตในครั้งนั้น เป็นเหตุผลให้ มหาวิทยาลัยนางาซากิ ของประเทศญี่ปุ่น กลายเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่สยองและหลอนที่สุดในโลกเช่นกัน มหาวิทยาลัยนางาซากิ ได้รับการสถาปนาอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ.1949 ย้อนกลับไปก่อนเหตุการณ์เลวร้ายต่าง ๆ จะเกิดขึ้น มหาวิทยาลัยแห่งนี้เคยเป็นโรงเรียนแพทย์มาก่อน ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1857
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 1945 ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองนางาซากิ เพื่อหวังจะยุติสงครามกับญี่ปุ่น โรงเรียนการแพทย์ที่ตั้งอยู่ห่างจากศูนย์กลางการทิ้งระเบิดเพียง 600 เมตร ได้รับความเสียหายอย่างหนัก นักศึกษา อาจารย์ และบุคลากรทางการแพทย์เสียชีวิตทันที 800 คน จากเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนั้นคาดว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นกว่าเจ็ดหมื่นคน บริเวณรอบ ๆ มหาวิทยาลัย และสถานที่ต่าง ๆ รอบเมือง มีเสียงล่ำลือถึงดวงวิญญาณที่ยังคงวนเวียนอยู่ด้วยความทุกข์ทรมาน
|
|
http://www.vcinemashow.com |
|
|
ด้วยจำนวนตัวเลขที่น่ากลัวของผู้เสียชีวิต และเสียงเล่าลือว่านักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัยมักจะได้ยินเสียงกรีดร้อง ร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด และกลิ่นของเนื้อและเสื้อผ้าไหม้อยู่เสมอ ๆ ยามค่ำคืนผ่านห้องโถงของมหาวิทยาลัย ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็น ได้ยิน หรือแม้แต่เพียงได้กลิ่นก็ขนลุกขนพองไปตาม ๆ กัน ทำให้ความน่ากลัวของมหาวิทยาลัยนางาซากิ ติดอยู่ในอันดับที่ 6 มหาวิทยาลัยที่น่ากลัวที่สุดในโลก
อันดับที่ 5 : มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ (University of Illinois at Urbana-Champaign)
|
|
www.pinterest.com |
|
|
มหาวิทยาลัยเก่าแก่ของประเทศสหรัฐอเมริกา ในกลุ่มของมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ตั้งอยู่คร่อมเมืองสองเมือง คือเมืองเออร์แบนาและเมืองแชมเปญจน์ ในรัฐอิลลินอยส์ นอกจากชื่อเสียงด้านวิทยาการแล้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องความเฮี้ยน ของวิญญาณ
ผีไม่มีหน้า อันเป็นที่เลื่องลือไปทั่วอีกด้วย ในคืนแห่งปาร์ตี้หญิงสาวคนหนึ่งกลับเข้ามาที่หอ ในขณะที่เธอกำลังเดินขึ้นบันไดไปยังห้องพัก มีความรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกจ้องมองจากทางด้านบนของบันได และเมื่อเธอเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบนก็พบกับชายคนหนึ่งสวมสูทสีเทากำลังยืนอยู่ แต่ที่สำคัญเขาคนนั้นไม่มีใบหน้า เธอช็อกและตกใจสุดขีดจึงรีบวิ่งไปบอกเพื่อน หลังจากนั้นทั้งอาคารก็ถูกค้นจนทั่ว แต่ไม่พบแม้แต่เงาของชายผู้นั้น นับตั้งแต่นั้นมาก็มีเสียงเล่าลือว่ามีผู้คนพบเห็น “ผู้ชายไม่มีหน้า สวมสูทสีเทา” ตามสถานที่ต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย
|
|
www.youtube.com |
|
|
เหตุการณ์ที่ตึก Crampton Hall หลายปีมาแล้วได้มีนักศึกษา ถูกฆ่าตายโดยการแขวนศพไว้ภายในตู้เสื้อผ้าของเขา และเป็นเรื่องที่น่าเศร้าว่าจนบัดนี้ก็ยังหาตัวฆาตกรไม่พบ จนกระทั่งผ่านมาถึงปี 2007 มีนักศึกษาชายคนหนึ่งไม่ได้ไปงานปาร์ตี้ เพื่อน ๆ จึงออกตามหาจนทั่วก็ไม่พบ เมื่อกลับมาที่ห้องเปิดดูที่ตู้เสื้อผ้าก็พบว่า นักศึกษาคนนั้น โดนแขวนคอเปลือยกายคว่ำหน้า อยู่ในตู้เสื้อผ้าของเขา โชคดีที่เขายังมีชีวิตอยู่ แต่หวาดกลัวเป็นอย่างมาก และในคืนนั้นเอง นักศึกษาชายหลายคนก็ต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัว เพราะพวกเขาโดนปลุกให้ตื่นขึ้น ด้วยวิธีที่หลอนจนขนหัวลุก เพระเมื่อลืมตาขึ้นมาพวกเขาก็พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่บนตัวพวกเขา จากนั้นก็เดินหายเข้าไปในตู้เสื้อผ้า หลายคนขวัญหนีดีฝ่อต้องมานั่งอยู่รวมกัน แต่ก็ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่าชายผู้นั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร เพราะเขา “ไม่มีใบหน้า” นั่นเอง
อันดับที่ 4 : มหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg University)
|
|
www.vwmin.org |
|
|
มหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก แห่งประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1386 เต็มไปด้วยภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์อันน่าเศร้าสะเทือนใจ ในยุคของนาซี ที่มีอาจารย์หัวคอมมิวนิสต์ หรืออาจารย์ชาวยิว จะถูกจับตัวไปที่สถานกักกัน และถูกสังหารอย่างเลือดเย็น แต่วิญญาณของพวกเขายังคงกลับมาและวนเวียนอยู่ในที่ทำงานเก่า คอยหลอกหลอนผู้คนมาเป็นระยะเวลานาน โดยนักศึกษาหลายคนเล่าว่า พวกเขาจะไม่ได้เห็นวิญญาณของอาจารย์เหล่านั้น แต่สิ่งที่พวกเขาได้พบเจอก็คือ ขณะที่กำลังนั่งอยู่ในห้องบรรยาย บทเรียนต่าง ๆ ที่ถูกเขียนด้วยชอล์คอยู่บนกระดานดำได้ถูกลบไปเอง ทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น หรือบางครั้งก็มีคำประหลาด ลึกลับ ชวนขนหัวลุก ถูกเขียนขึ้นมาเอง
|
|
www.villagevoice.com |
|
|
เรื่องหลอน ๆ ที่เกิดขึ้นภายในคลินิคของมหาวิทยาลัย ที่เจ้าหน้าที่ที่ต้องอยู่กะเวลากลางคืน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มักจะได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาวอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อเดินตามไปดูที่ต้นตอของเสียงนั้นกลับไม่พบใครเลย นั่นอาจเป็นเพราะว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ทดลองทางวิทยาศาสตร์ของพวกนาซี ที่เรียกว่า การบำรุงสายพันธุ์มนุษย์โดยการคัดเลือกสายพันธุ์ (Eugenics) โดยมีจุดมุ่งหมายให้เชื้อชาติอารยัน มีผิวขาว ผมบลอนด์ ตาสีฟ้าแบบนอร์ดิก และเป็นเชื้อชาติที่ยิ่งใหญ่ จึงพยายามกำจัดสายพันธ์ที่อ่อนแอและไม่เหมาะสม ด้วยการบังคับทำหมัน หรือการทดลองอันโหดเหี้ยมโดยใช้นักโทษหญิงเป็นตัวทดลอง จึงไม่น่าแปลกใจที่สถานที่แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยดวงวิญญาณอันเจ็บปวดของหญิงสาว ที่ยังคงวนเวียนอยู่เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
อันดับ 3 : มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด (Oxford University)
|
|
http://www.oxford-photos.com |
|
|
มหาวิทยาลัยชื่อดังและเก่าแก่ที่สุดจากประเทศอังกฤษ ที่มีอายุกว่า 800 ปี นอกจากชื่อเสียงเรื่องความเก่าแก่และวิชาการ ที่ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลกแล้ว เรื่องหลอน ๆ ของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ก็โด่งดังไม่แพ้กัน ลองนึกภาพมหาวิทยาลัยที่มีอายุกว่า 800 ปี แน่นอนว่าสถานที่แห่งนี้ย่อมต้องมีวิญญาณสิงสถิตอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน เริ่มกันที่ “ผีหัวขาดกษัตริย์ชาร์ลที่ 1” แห่งประเทศอังกฤษที่ได้ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต ด้วยการตัดศีรษะ โดยนักศึกษาเล่าว่าพวกเขามักจะเห็นวิญญาณผีหัวขาดของกษัตริย์ชาร์ลที่ 1 อยู่รอบๆ บริเวณวิทยาลัยไครส์ตเชิช (Christ Church College) ในมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด
|
|
Charles I of England |
|
|
ผีหัวขาดของบาทหลวงวิลเลี่ยม ลอด อดีตหัวหน้าบาทหลวง (Archbishop) ผู้คอยสนับสนุนนโยบายทางศาสนาของพระเจ้าชาร์ลที่ 1 และได้ถูกตัดสินประหารชีวิตวยการตัดศีรษะ ในปี ค.ศ.1645 ช่วงสงครามกลางเมืองของประเทศอังกฤษ และเป็นอดีตอธิการบดีของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ดอีกด้วย เมื่อถูกประหารชีวิตแล้ว วิญญาณของบาทหลวงวิลเลี่ยม ก็ยังคงวนเวียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ โดยเฉพาะที่หอสมุด St John’s College library หากนักศึกษาคนไหนไปนั่งอ่านหนังสือจนดึกก็มักจะเจอดีทุกราย พวกเขาเล่าว่า จะเห็นร่างของชายไม่มีหัว ในมือถือเทียนไข เดินไปตามทางเดิน พร้อมกับเตะศีรษะของตัวเองไปตามพื้นด้วย
|
|
pixshark.com |
|
|
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งในตำนานความหลอนของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด เพราะยังมีอีกหลายเรื่องราวอาถรรพ์ที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณของพลเอก Francis Winderbank ที่คอยเฝ้าห้องสมุดเมอร์ตัน (Merton College library), วิญญาณของ Obadiah Walker อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เมื่อ 300 ปีก่อน ที่ยังคงสิงสถิตอยู่ที่ห้องของเขา นักศึกษาหลายคนยังคงได้ยินเสียงฝีเท้าลงบันได แต่เมื่อหาต้นตอของเสียงนั้นกลับไม่พบผู้ใดเลย
อันดับที่ 2 : มหาวิทยาลัยโทรอนโต (University of Toronto)
|
|
http://i.huffpost.com/ |
|
|
อันดับสองมหาวิทยาลัยที่หลอนที่สุดในโลก ตกเป็นของมหาวิทยาลัยโทรอนโต แห่งประเทศแคนาดา ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1827 พร้อมกับเรื่องสยองชวนขนหัวลุกที่โด่งดังไปทั่วโลก ถึงคดีฆาตกรรมคนงานก่อสร้าง ที่เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1850 “Ivan Reznikoff” ช่างก่อสร้างที่ถูกฆ่าตาย และถูกอำพรางคดีด้วยการซ่อนศพของเข้าไว้ภายในตึกของมหาวิทยาลัย
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีใครรับรู้เรื่องราวการตายของ Reznikoff จนในปี ค.ศ1889 นักศึกษาคนหนึ่งได้พบชายลึกลับ ในระหว่างทางที่กำลังจะกลับหอ ชายคนนั้นบอกว่ามีเรื่องราวบางอย่างจะเล่าให้ฟัง เพื่อให้นักศึกษาชวนเขากลับไปที่พักด้วย และพวกเขาก็เริ่มดื่มกัน คนที่อ้างตัวว่าเป็น Ivan Reznikoff เล่าว่าเขาคิดจะทำการฆาตกรรมหัวหน้าคนงาน “Paul Diabolos” เนื่องมาจากสาเหตุที่ Diabolos พยายามที่จะแย่งคู่หมั้นของเขาไป ทำให้เขาโกรธแค้นมากจึงวางแผนฆ่าโดยใช้ขวานอาวุธเหวี่ยงไปที่ Diabolos สุดแรง ครั้งแรกพลาดเป้าขวานเจาะไปที่ประตู เป็นรอยขวานและประตูบานนั้นก็ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้
|
|
http://www.blogto.c |
|
|
Diabolos ก็ได้พยายามหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวในตึก จนเขาหาตัวไม่พบ Diabolos ที่แอบซ่อนตัวอยู่เมื่อสบโอกาสก็ได้ใช้มีดจ้วงแทง Reznikoff ที่วิ่งตามมาอย่างไม่ทันระวังตัว จนนอนตายจมกองเลือดอยู่ตรงนั้นเอง หลังจากนั้น Diabolos ก็นำร่างอันไร้วิญญาณของเขาไปซ่อนไว้ในช่องระบายอากาศ เมื่อนักศึกษาตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น ก็ไม่พบกับเพื่อนดื่มของเขาเสียแล้ว และได้แต่คิดว่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นคงเป็นเพียงแค่ความฝันและลืม ๆ มันไป
ในปี ค.ศ.1890 ได้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้อาคาร ทำให้ได้พบกับโครงกระดูกของ Reznikoff ที่ถูกซ่อนไว้ เรื่องราวต่าง ๆ ค่อย ๆ คลี่คลายจากหลักฐานที่พบนั่นเอง และยังมีหลักฐานจากนักศึกษาที่เล่าว่าเคยพูดคุยกับผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นวิญญาณของ Reznikoff อีกด้วย ก่อนหน้านั้นหลังจาก Reznikoff ได้เสียชีวิตลง ก็มีนักศึกษาหลายคนพบเห็นวิญญาณของเขาที่ลองลอยวนเวียนอยู่ในมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่ทราบว่าวิญญาณตนนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร
|
|
http://www.blogto.com |
|
|
เรื่องของการฆาตกรรมของคนงานก่อสร้างนี้กลายมาเป็นตำนานของมหาวิทยาลัยโทรอนโต อันโด่งดังในที่สุด กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยและส่งเสริมการท่องเที่ยวในที่สุด หลายคนต้องการที่จะไปสัมผัสกับ Reznikoff อย่างใกล้ชิดก็สามารถซื้อทัวร์กับทางมหาวิทยาลัยได้ หนึ่งในนั้นจะมีร้านกาแฟ Diabolos Coffee Bar และ Reznikoff Café นั่นเอง
อันดับที่ 1 : มหาวิทยาลัยโอไฮโอ (Ohio University)
|
|
http://onlinempadegrees.com |
|
|
มหาวิทยาลัยสยองที่หลอนที่สุด จากประเทศสหรัฐอเมริกา สาเหตุแห่งความหลอนติดอันดับหนึ่งของโลกนั่นอาจเป็นเพราะมหาวิทยาลัยโอไฮโอ เคยเป็นโรงพยาบาลจิตเวชที่ชื่อว่า “Athens Lunatic Asylum” ที่เปิดทำการตั้งแต่ปี ค.ศ.1874-1993 ก่อนที่จะกลายมาเป็นมหาวิทยาลัย
|
|
http://www.martianherald.com |
|
|
ตำนานความเฮี้ยนของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้เริ่มต้นมาจากเรื่องราวของคนไข้จิตเวชประจำโรงพยาบาลรายหนึ่งที่ชื่อว่า “มากาเร็ต ชิลลิ่ง” วัย 54 ปี เธอเป็นคนไข้ที่ได้รับอนุญาตให้เดินไปไหนมาไหนได้ภายในโรงพยาบาล แต่แล้ววันหนึ่งมากาเร็ต ก็ได้หายตัวไป ค้นหาจนทั่วก็หาไม่พบ เป็นเวลานานถึง 6 สัปดาห์ คนงานจึงมาพบร่างของเธอที่ชั้นบนของวอร์ด N20 ซึ่งเคยใช้เป็นวอร์ดรักษาคนไข้ที่ป่วยและติดเชื้อ แต่ปิดไม่ได้ใช้งานมาหลายปีแล้ว พบเธอในสภาพที่นอนเปลือยกายเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่กล่าวถึงสาเหตุที่เธอเสียชีวิตว่า หัวใจล้มเหลว
|
|
http://i.imgur.com |
|
|
เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นส่วนที่ไม่ใช้แล้วของโรงพยาบาลที่ไม่มีระบบทำความอบอุ่น อากาศหนาวมากประกอบกับเธอเป็นคนไข้จิตเวชและหูหนวกด้วยจึงไม่ร้องเรียกให้ใครช่วย หรืออาจนึกว่าตัวเองกำลังเล่นเกมส์ซ่อนหาอยู่ก็เป็นได้ ความสยองที่ยังคงอยู่จากการตายของมากาเร็ตนั่นก็คือ รอยด่างบนพื้น ที่ร่างของเธอได้นอนเสียชีวิตอยู่นั้นยังคงปรากฎอยู่ จนกระทั่งปัจจุบันที่ได้กลายมาเป็นมหาวิทยาลัยโอไฮโอแล้ว และมีตำนานเล่าว่า “ใครที่ได้สัมผัสรอยด่างบนพื้นนั้นจะต้องมีอันเป็นไป” มีข่าวว่านักศึกษาหญิงคนหนึ่งต้องการจะลองของ จึงได้ไปลูบรอยด่างบนพื้นต้องห้ามนั้น ไม่นานเธอก็ได้ผูกคอตาย และเป็นที่มาของรอยด่างอาถรรพ์ที่ใครๆ ต่างก็พูดถึงมาจนบัดนี้
|
|
horroradventuregaming.com |
|
|
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นกับความเฮี้ยนของมหาวิทยาลัยโอไฮโอแห่งนี้ เพราะยังมีเรื่องเล่าหลอน ๆ เกี่ยวกับหอพักนักศึกษาที่ชื่อว่า “Wilson Hall” โดยเรื่องสุดสยองนี้เกิดขึ้นที่ห้อง 428 มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่งได้ฆ่าตัวตายจากการทำพิธีกรรมถอดจิตที่เป็นศาสตร์มืดแบบแม่มด และได้ใช้เลือดเขียนเป็นปริศนาทิ้งไว้บนกำแพงผนังห้อง หลังจากนั้นไม่นานความเฮี้ยนของห้อง 428 นี้ได้เริ่มขึ้น เมื่อมีคนได้พบเจอถึงเรื่องราวสุดสยองของวิญญาณหญิงสาวที่คอยมาหลอกหลอน จนมีผู้ร้องเรียนเป็นจำนวนมาก จนปัจจุบันห้องนี้ปิดตายถาวร และรอยเลือดปริศนาบนกำแพงนั้นถูกลอกออกไป แต่ก็ยังมีเหล่าบรรดานักศึกษาพยายามไปลองของกันที่ห้องนี้อยู่เสมอๆ และที่สำคัญ Wilson Hall แห่งนี้ยังได้รับการกล่าวถึงของรายการโทรทัศน์ต่าง ๆ ที่ไปถ่ายทำที่ตึกแห่งนี้ว่าเป็น “สถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในโลก” อีกด้วย
|
ที่มา : The 7 Most Haunted College Campuses In The World
ขอบคุณภาพประกอบจาก : Internet
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ : campus.mgr2014@gmail.com |