โลกยุคไฮเทค อะไรๆก็แข่งกันด้วยเทคโนโลยี ใครหยุดนิ่งไม่พัฒนาตัวเองเมื่อไหร่ ย่อมถูกทิ้งไว้ข้างหลัง!! เมื่อเร็วๆนี้ เวทีประชุมใหญ่เวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม เพิ่งจัดอันดับ 6 เทคโนโลยีใหม่พลิกอนาคต ที่จะกลายเป็นพระเอก หนุนให้เศรษฐกิจโลกเติบโตยั่งยืนในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า แต่ละนวัตกรรมล้วนตอบโจทย์สำคัญ คือทำยังไงก็ได้ให้มนุษย์กินอยู่สะดวกสบายขึ้น
เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ฮือฮาสุดในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ ต้องยกให้ “เครื่องชาร์ตพลังงานไฟฟ้าแบบไร้สาย” (OLEV) คิดค้นโดยเกาหลีใต้ แรกเริ่มนำมาทดลองใช้กับรถเมล์พลังงานไฟฟ้าในประเทศ และประสบความสำเร็จน่าชื่นใจ เลยถูกค่ายรถยนต์ใหญ่ๆจ้องตาเป็นมัน เพราะอยากเอาไปต่อยอดพัฒนาประสิทธิภาพของรถยนต์ไฟฟ้าให้สามารถชาร์ตไฟฟ้าได้อัตโนมัติ ระหว่างวิ่งฉิวอยู่บนท้องถนน ไม่ต้องแวะจอดปั๊มเติมพลังงานไฟฟ้าให้เสียเวลา สำหรับวิธีการทำงานของ OLEV ใช้หลักการเดียวกับการชาร์ตแบตโทรศัพท์มือถือ โดยจะฝังสายไฟฟ้าและเครื่องส่งสัญญาณแม่เหล็กไว้ใต้พื้นถนน เพื่อส่งพลังงานแบบไร้สายให้รถยนต์ที่มีเครื่องมือแปลงพลังงานไฟฟ้าติดตั้งอยู่ นับเป็นการปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ และโบกมือลาปัญหาการแบกน้ำหนักแบตเตอรี่ก้อนใหญ่ไว้บนตัวรถ รับรองว่าอนาคตจะช่วยประหยัดพลังงานและลดมลพิษได้อย่างน่าทึ่ง
ระบบการพิมพ์ แบบสามมิติ “3–D พรินติ้ง” เติบโตขึ้นรวดเร็วในช่วง 2-3 ปี มานี้ โดยไม่ได้มีอิทธิพลเฉพาะในแวดวงอุตสาหกรรมการออกแบบและธุรกิจขนาดใหญ่ แต่คาดการณ์ว่า จะแพร่ หลายไปสู่ผู้บริโภครายย่อยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาแบบก้าวกระโดดภายในเวลาสั้นมาก เพราะสามารถใช้ประโยชน์ในทางสร้างสรรค์สารพัดรูปแบบ แถมประยุกต์ใช้ได้กับหลายวงการ โดยเป็นต้นแบบการออกแบบ, ทดลอง, ซ่อมแซม หรือนำไปผลิตชิ้นงานตามจินตนาการ ไม่ว่าจะเป็นค่ายธุรกิจใหญ่เล็ก และผู้ประกอบการรายย่อย ต่างก็ตื่นตัวและให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีนี้มาก ขนาด UPS Store ผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ยังแตกไลน์บิสเนสเปิดให้บริการ 3-D พรินติ้ง ส่วนเจ้าแห่งเครื่องพรินเตอร์แบบ 2 มิติ ค่าย HP ก็เร่งมือพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบสนองความต้องการใหม่ของตลาด ในแวดวงตำรวจยังเริ่มนำเทคโนโลยีนี้มาสร้างแบบจำลองใบหน้าผู้ร้าย แทนการสเกตช์ภาพแบบเก่าๆ
“Self–healing materials” เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่น่าตื่นตาตื่นใจ เนื่องจาก ผลิตวัสดุที่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ ลองจินตนาการดูว่าจะเลิศขนาดไหน ถ้าเวลาข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเกิดเสียหาย แล้วมันสามารถซ่อมแซมตัวเองให้กลับมาใหม่กิ๊กเหมือนเดิม แบบเดียวเปี๊ยบกับหุ่นยนต์เทอร์มิเนเตอร์!! หลักการของเทคโนโลยีตัวนี้คือ ใช้คุณสมบัติพิเศษของวัสดุพอลิเมอร์ที่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ หากได้รับความเสียหายแตกหัก โดยการซ่อมแซมตัวเองอาจเกิดขึ้นอัตโนมัติ หรือเกิดจากการอาศัยตัวการกระตุ้นบางอย่าง เช่น แสงและความร้อน วัสดุเหล่านี้มีตัวการขับเคลื่อนปฏิกิริยาสำคัญคือไอออนของโลหะ ปัจจุบันค่ายรถยนต์นิสสันใช้เทคโนโลยีนี้กับวิศวกรรมยานยนต์มาหลายปีแล้ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สารเคลือบป้องกันรอยขีดข่วนรถยนต์ แม้แต่สมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ อย่างเช่น ไอโฟน ก็นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ป้องกันรอยขีดข่วนของกรอบมือถือ
“การผลิตน้ำประปาและน้ำบริสุทธิ์แบบประหยัดพลังงาน” เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังคิดค้นอย่างขะมักเขม้น เพื่อหาทางลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และลดต้นทุนการผลิตน้ำสะอาด ซึ่งคาดว่าจะประหยัดได้อย่างมหาศาล ถ้าประสบความสำเร็จ ต้องจับตารอดูกันอีกสักพัก
“การเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นเชื้อเพลิง และแหล่งกักเก็บพลังงาน” จากเดิมที่เป็นผู้ร้ายมาตลอด เพราะคอยสร้างมลพิษให้ชั้นบรรยากาศ และเป็นต้นเหตุให้เกิดวิกฤติโลกร้อน ในอนาคตข้างหน้า ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะกลับมาเป็นฮีโร่กู้โลก ในฐานะพลังงานเชื้อเพลิงทางเลือกใหม่น่าลอง
“เซลล์บำบัด” เป็นนวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์ที่กำลังมาแรงทั่วโลก เพราะช่วยชะลอความแก่ได้ลึกล้ำจนถึงระดับเซลล์ ด้วยการใช้เซลล์ต้นกำเนิดทำการบำบัด ในอนาคตผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพที่บำรุงถึงระดับเซลล์ และการฉีดวิตามินบำบัดต่างๆเพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของเซลล์ร่างกาย จะกลายเป็นกุญแจดอกใหม่เปิดประตูสู่ความเป็นอมตะมีชีวิตยืนยาวของมนุษย์.
มิสแซฟไฟร์