'บุก ไล่ - รื้อ' นำเข้าเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2558 โดย จุฬา ศรีบุตตะ อ่าน [58540]
รีสอร์ตรุกป่าสงวน กำราบขบวนการ รุกป่า!
.....
|
|
ส่องปรากฏการณ์ทวงคืนผืนป่า ดับเครื่องชนรีสอร์ตบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ รัฐไล่บี้ 'เจ้าพนักงานผู้ฉ้อฉล' ออกเอกสารสิทธิ์รุกป่าเอื้อประโยชน์ต่อ 'นายทุนจอมตะกละ' เขมือบพื้นที่ป่าอย่างไร้สำนึก สู่การจัดการพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกอย่างชอบธรรม
ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่รัฐเดินหน้าเอาจริงเอาจังเป็นข่าวให้ประชาชนรับทราบกันเป็นระลอก ทว่า ยังคงถูกคลางแคลงว่าที่ผ่านมานั้นเป็นเพียง 'ผักชีโรยหน้า' เป็นข่าวแป๊บเดียวประเดี๋ยวคนก็ลืม อย่างไรก็ตาม ในยุครัฐบาลของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประเด็นปัญหาเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯ เป็นเรื่องใหญ่ที่ถูกนำมาหารือ และมีความพยายามป้องปรามการบุกรุกไม่ให้บานปลายไปกว่านี้
ขายศักดิ์ศรีแลกเศษเงิน
“รุกที่ดิน ส.ป.ก. วังน้ำเขียว " 99 รีสอร์ต " กว่า 6,000 ไร่
รุมทึ้งไม่หยุด! “เขาค้อ-ภูทับเบิก” พบนายหน้าเร่ขาย ภทบ.5 - โฉนดปลอมว่อน
นายทุน - คนมีสี ฮุบที่ดิน “เขาค้อ” รอบทิศ
ดีเอสไอลุยปราบปรามบุกรุกที่ดินเกาะสมุย
ทหารช่าง นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง รีสอร์ตบริเวณสวนผึ้ง จ.ราชบุรี
รื้อแล้ว 3 รีสอร์ตเกาะเสม็ด จ.ระยอง รุกพื้นที่อุทยานฯ กลางทะเล
ชี้เสียหาย 3 หมื่นล้าน! รุกป่า อช.สิรินาถภูเก็ต มี ขรก. เกี่ยวข้อง
พยัคฆ์ไพร บุกยึด13 รีสอร์ตดัง รุกป่าเมืองกาญจน์
ป่าไม้โคราชจ่อฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย โบนันซ่า รุกป่า เดินหน้าใช้ ม.25 สั่งรื้อ”
ที่ดินคีรีมายาโฉนดผิดอื้อ แจ้งจับนายช่าง ส.ป.ก. รุกป่า”
เหล่านี้คือพาดหัวข่าวกรณีนายทุนบุรุกป่าที่ถูกนำเสนอผ่านสื่ออย่างต่อเนื่อง ทีมข่าว Astv ผู้จัดการ Live ติดต่อไปยัง ประยงค์ ดอกลำไย ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม และตัวแทนเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน แสดงความคิดเห็นในประเด็นรีสอร์ตบุรุกพื้นที่ป่าสงวน สาเหตุแรกคือการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานของรัฐออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ตรงนี้เป็นปัญหาใหญ่หลวงในอดีตที่ส่งผลกระทบมายังปัจจุบัน ฉะนั้น การดำเนินการลงโทษต้องนำตัวผู้กระทำความผิดมารับผิดชอบให้ครบถ้วน และหาแนวทางจัดการที่พักต่างๆ ที่สร้างขึ้นไปแล้วบนพื้นที่ป่าสงวนกันต่อไป
“หนึ่ง - ต้องดำเนินการกับเจ้าหน้าที่กรมที่ดินที่ดำเนินการออกเอกสารสิทธิฉบับนี้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สอง - ความจริงแล้วคนที่ไปขอออกโฉนดไม่ควรต้องมีความผิดด้วยนะครับ เพราะเขาไปยื่นขอหน่วยงานรัฐและหน่วยงานรัฐตรวจสอบแล้วและออกให้ ส่วนจะมีการทุจริตจะมีการจ่ายเงินจ่ายทองอย่างไรนั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการให้ได้อย่างไร ประเด็นก็คือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”
เขากล่าวถึงแนวทางการจัดการ “ในเรื่องของนายทุนที่เข้าไปอยู่เข้าไปทำรีสอร์ตที่พัก ผมคิดว่ามีจำนวนไม่น้อยเช่นกัน ประเด็นคือจะจัดการอย่างไร มันมีข้อมีเสนอว่าแทนที่จะไปไล่รื้อ เมื่อดำเนินคดีสิ้นสุดแล้วพื้นที่ตรงนี้มันควรจะเป็นของรัฐหรือเปล่า แล้วก็นำมาดำเนินการในรูปแบบของการให้เช่าหรือแสวงหาผลประโยชน์ได้มั้ย มันก็จะเป็นประเด็นต่อมา เป็นการฟอกป่าหรือเปล่า? “
ปีที่ผ่านๆ มา เจ้าหน้าที่รัฐมีการจัดการเป็นตัวอย่างด้วยการทุบรื้อรีสอร์ตที่บุกพื้นที่ป่า ตรงนี้เองมวลชนจำนวนไม่น้อยตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพียงผลงานผักชีโรยหน้าและไม่ได้จัดการรีสอร์ตที่รุกพื้นที่ป่าทั้งหมดแต่อย่างใด ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มทุนที่ครอบครองรีสอร์ตในพื้นที่ป่านั้น มีความคุ้นเคยกับคนใหญ่คนโต นักธุรกิจ นักการเมือง คนในเครื่องแบบ ฯลฯ อีกอย่างกฎหมายไทยใช้เวลาดำเนินการเป็นเวลานาน จึงทำให้ประเด็นรีสอร์ตรุกป่าลักษณะนี้ตกเป็นข่าวประเดี๋ยวก็เงียบไป
ประยงค์ กล่าวถึงกรณีรีสอร์ตดังที่ตกเป็นประเด็นร้อน เพราะข้อความของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm No.5 แสดงความคิดเห็น กรณีการรุกล้ำที่ดินที่เขาใหญ่ โยงถึงรีสอร์ตคีรีมายา เขามองว่าสุดท้ายเรื่องก็จะเงียบลงไป แม้ทางรัฐบาลจะขับเคลื่อนจัดการเพื่อความถูกต้อง แต่วาระการปฏิบัติงานไม่นาน เท่ากับว่าตอนนี้เรากำลังนับถอยหลังปล่อยให้กลุ่มทุนกลับมาแสวงหาผลประโยชน์จากพื้นที่ป่ากันอย่างสำราญ
การจัดการล้มเหลวมาตั้งแต่แรก
“ถ้าพูดถึงเรื่องการบุกรุกป่าในขณะนี้มันพูดที่ปลายเหตุ ต้นเหตุของมันจริงๆ แล้วมันคือความล้มเหลวในเรื่องการจัดการที่ดินของประเทศไทย” ประยงค์ ตัวแทนเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน กล่าว
เขามองว่าการจัดการ ณ วันนี้ เร่งดำเนินการหยุดยั้งเพื่อไม่ให้เกินการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่ม และการที่ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปนั้นดูจะเป็นการปลุกเร้าสร้างความรุนแรง ทางออกที่ดีควรให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรการ ตรงนี้ไม่เพียงกลุ่มนายทุนบุกรุกป่าด้วยการสร้างรีสอร์ตต่างๆ แต่ร่วมถึงกลุ่มชาวบ้านที่ออยู่ทำกินในพื้นที่ป่าสงวนด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชูประเด็นดังกล่าวเป็นหนึ่งในปูมปัญหาที่ต้องจัดการ นำโดย พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ทีมโฆษก คสช. กล่าวสรุปความคืบหน้าการปฏิบัติงานตาม แผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน 2556 ความว่า การปราบปรามและหยุดยั้งทำลายทรัพยากรป่าไม้ จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุก และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ผู้ที่มีเอกสารสิทธิถูกต้องจะได้รับความคุ้มครอง แต่ผู้บุกรุกจะถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่ง
ทางด้าน มิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวในวงเสวนา ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาเรื่องการจัดการที่ดินป่าไม้ กำหนดแผนงานระยะสั้นและระยะยาวเพื่อจัดการปัญหาดังกล่าว
เรื่องแรก การปราบปรามและจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่ป่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมาของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯ ถือเป็นการดำเนินงานที่น่าพอใจ สามารถจับกุมผู้บุกรุกป่าได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากนี้จะบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นมากขึ้นด้วย
เรื่องที่สอง การปฏิรูปที่ดินป่า ทั้งป่าบก และป่าชายเลน ซึ่งขณะนี้ได้จัดทำแนวเขตป่า สำรวจพื้นที่ที่ถูกบุกรุก รวมทั้งการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยยึดตามมติ ครม. 30 มิถุนายน 2541 กำหนดเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่อยู่ก่อนมติ ครม. ต้องให้ความเป็นธรรม ให้อยู่อาศัยแบบมีเงื่อนไข โดยมีการใช้ประโยชน์บนพื้นฐานการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ดำเนินการควบคุมขอบเขตพื้นที่ไม่ไห้มีขยายเพิ่มเติมโดยเด็ดขาด ส่วนอีกกลุ่มที่อยู่หลังมติ ครม. จะต้องดำเนินการสอบสวนพิสูจน์สิทธิ และดำเนินตามกฎหมายอย่างเข้มงวด
และเรื่องที่สาม การฟื้นฟู และอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ข้อมูลจากปี 2552 ประเทศไทยเหลือพื้นที่คงสภาพป่าไม้ประมาณ 107.6 ล้านไร่ (ร้อยละ 33.6 ) จากพื้นที่ทั้งหมดของประเทศ 321 ล้านไร่ ทว่า ตามนโยบายป่าไม้แห่งชาติ กำหนดเป้าหมายพื้นที่ป่าต้องมี ร้อยละ40 ของพื้นที่ประเทศ ดังนั้นประเทศไทยต้องสร้างพื้นที่ป่าเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน
ไม่ใช่เรื่องเล็ก ป่าไม้วาระแห่งชาติ
ด้าน ผศ.ขวัญชัย ดวงสถาพร จากภาควิชาการจัดการป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวสรุปถึงยุทธศาสตร์แนวทางการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาเรื่องการจัดการที่ดินป่าไม้ ผ่านวงเสวนาเดียวกัน โดยสรุปสาระสำคัญ 7 ยุทธศาสตร์ ดังนี้
1. ป้องกันรักษาพื้นที่ป่าที่เหลือให้คงอยู่และยั่งยืน ด้วยการจำแนกที่ดินป่าไม้ให้เหมาะสมและจัดทำแนวเขตป่าไม้ให้ชัดเจนบนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของประชาชน
2. ฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมและป่าที่ถูกบุกรุกอย่างมีประสิทธิภาพ
3. แก้ไขปัญหาราษฎรในพื้นที่ป่าไม้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม จากข้อมูลพบว่ามีครัวเรือนชนบทไร้ที่ดินทำกิน 451,312 ครัวเรือน และมีการลงทะเบียนคนจนที่ต้องการที่ดินเพื่อประกอบอาชีพประมาณ 700,000 ราย
4. บูรณาการและส่งเสริมการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เช่น การสร้างเครือข่ายการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ที่เข้มแข็ง การพัฒนาและส่งเสริมป่าชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนให้สอดคล้องกับทรัพยากรท้องถิ่นและเกื้อกูลธรรมชาติ
5. การเพิ่มพื้นที่ป่านอกเขตพื้นที่ป่าไม้ตามกฎหมาย ปัจจุบันการสนับสนุนเรื่องนี้ยังน้อยมาก ซึ่งเราอาจสนับสนุนหรือสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนนำที่ดินของตนเองมาปลูกป่าเศรษฐกิจและสามารถยึดเป็นอาชีพได้ หรือในเขตตัวเมืองควรสำรวจและจัดทำฐานข้อมูลพื้นที่สีเขียวที่มีอยู่ และพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาในเขตเมืองและชุมชน
6. ส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้
7. ปรับปรุงและบูรณาการนโยบายและกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ให้มีเอกภาพและประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ทั้งหมดจะสำเร็จลุลวงได้จำเป็นต้องขับเคลื่อนแผนงานสู่การปฏิบัติ รวมทั้งการสนับสนุนจากภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สังคมกำลังจับตามองจุดจบของกลุ่มทุนบุกรุกป่า การจัดการสิ่งก่อสร้างที่บุกรุกป่าสงวน วิธีการทุบทิ้งทำลายอาจไม่ใช่แนวปฏิบัติที่จะปลุกผืนป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ในทันที ท้ายที่สุดแล้วการจัดการอย่างยั้งยืนเป็นรูปธรรมคงเป็นโจทย์ที่คณะทำงานต้องขบคิดเพื่อประโยชน์ของสาธารณะ
|
|
|