มาตราฐานใหม่เพื่อปฏิรูปประเทศ
นำเข้าเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2558 โดย นายจุฬา ศรีบุตตะ
อ่าน [58526]  

.....

วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม 2558
สนช.เล็งโหวตถอดถอน3คนครั้งเดียวจบ

สนช.เล็งโหวตถอดถอน3คนครั้งเดียวจบ 'วิชา'ปัดวิจารณ์คำแถลง'ยิ่งลักษณ์' ชี้ได้สร้างมาตราฐานใหม่เพื่อปฏิรูปประเทศแล้ว

               22ม.ค.2558 นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกวิปสนช. เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้วิปสนช.เสนอวิธีการโหวตลงมติถอดถอนคดีนายนิคม ไวยรัชพานิช นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยแยกการลงคะแนนสองครั้ง คือ ลงคะแนนคดีนายนิคมและนายสมศักดิ์พร้อมกัน ส่วนคดีน.ส.ยิ่งลักษณ์ให้แยกลงคะแนนอีกครั้ง

               "อย่างไรก็ตามล่าสุดจากการหารือกับสนช.หลายคนเห็นว่า หากมีการแยกลงคะแนนตามวิธีดังกล่าว ผลการลงคะแนนครั้งแรกอาจจะส่งผลต่อการลงคะแนนในครั้งที่สองได้ ดังนั้นจะมีการเสนอต่อที่ประชุมในวันที่ 23 ม.ค.ให้มีการลงคะแนนทั้งสามคนในครั้งเดียว โดยแยกบัตรลงคะแนนเป็นสามบัตร ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสนช.จะเห็นชอบวิธีดังกล่าวหรือไม่ เพราะจะไม่สามารถชี้นำการลงคะแนนได้" กล่าว


'วิชา'ปัดวิจารณ์คำแถลง'ยิ่งลักษณ์'

                 นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช.กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงปิดคดีถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่กังวล เพราะทำตามหน้าที่ ถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ในเรื่องคุณธรรมจริยธรรมสำหรับผู้บริหารราชการแผ่นดิน ที่ต้องได้รับความเลื่อมใสศรัทธาอย่างแท้จริงจากประชาชน

                 เมื่อถามว่า มองคำชี้แจงของคุณยิ่งลักษณ์ในการแถลงปิดคดีอย่างไร นายวิชา กล่าวว่า อย่าไปวิจารณ์คำชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหา เมื่อถามต่อว่า ถ้าสนช.มีมติไม่ถอดถอนสังคมจะก้าวไม่พ้นปัญหาทุจริตหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า จะถอดถอนหรือไม่ไม่สำคัญ ถือว่าได้สร้างมาตรฐานใหม่เพื่อการปฏิรูปประเทศต่อไปแล้ว

 

“รองโฆษกฯ”เผย“ประยุทธ์”ห่วงกรณีถอดถอน
 
 
               ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคดีถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่สนช.จะลงมติในวันศุกร์ที่ 23 ม.ค.นี้ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ไม่ได้เรียกประชุมเรื่องสถานการณ์ดังกล่าวเป็นพิเศษแต่อย่างใด แต่ได้สั่งการให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)ทุกคนช่วยกันชี้แจงว่าที่ผ่านมาความขัดแย้งเป็นอย่างไร เพราะทั้งสองฝ่ายต่างเรียกหาความยุติธรรม ดังนั้นต้องให้ทั้งสองฝ่ายมีโอกาสชี้แจงโดยที่สังคมต้องได้รับทราบด้วย แต่อย่างไรก็ตามนายกฯเป็นห่วงในกรณีถอดถอน แต่ไม่ถึงกับเป็นกังวล เพราะว่านายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงให้กับครม.และผู้เกี่ยวข้องในภาคของคสช.ว่า ให้ทุกคนได้ติดตามข้อมูลข่าวสารและช่วยชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน จึงขอให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องได้ช่วยกันทำความเข้าใจว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือทำให้ความจริงปรากฏ และนายกรัฐมนตรีก็มั่นใจว่า ในช่วงระยะนี้ประเทศเรามีความสงบมากขึ้น ปัญหาเศรษฐกิจก็ต้องช่วยกันไป มีข้อแนะนำจากภาคส่วนทั้งหลาย ก็รับมาปรับปรุง แต่มีส่วนหนึ่งที่เป็นกลุ่มการเมือง ยังมีสื่อที่อิงการเมือง หรือเป็นกระบอกเสียงที่พยายามทำให้สังคมเข้าใจผิด โดยพูดถึงพี่น้องสีเสื้อต่างๆ จึงอยากจะบอกว่า อย่าแบ่งสีเสื้อคนไทยอีกเลย เมื่อบ้านเรากำลังเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้น ก็อย่าไปแบ่งสีแบ่งฝ่าย อย่าไปกระตุ้น เพราะหากเกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก จะแก้ไขลำบาก
 
               พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า นายกฯอยากให้ย้อนกลับไปดูในช่วงที่บ้านเมืองเราขัดแย้งกัน ความขัดแย้งเกิดจากส่วนหนึ่งมีความรู้สึกว่าสิ่งที่รัฐบาลขณะนั้นทำเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเสียหาย แต่ขณะเดียวกันอีกฝ่ายก็เห็นว่าถูกต้องแล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อบ้านเมืองมันไปไม่รอด ไม่มีทางออก แต่ละส่วนรัฐบาลก็ไม่สามารถบริหารจัดการกับผู้เห็นต่างได้ ผู้เห็นต่างก็ทำให้ทุกอย่างชะงักงัน จึงมีคสช. มีรัฐบาลชั่วคราวนี้ขึ้นมา นายกฯอยากให้เข้าใจว่าท่านมาเพื่อต้องการที่จะยุติความขัดแย้งแล้วให้บ้านเมืองเดินไปได้ วันนี้จึงอยู่เฉยๆ ไม่ได้เพราะนั่นหมายความว่าปัญหาความขัดแย้งยังไม่หมดสิ้นไป ทุกฝ่ายเรียกร้องให้ดำเนินการด้วยความเป็นธรรม จึงมีกระบวนการการพิจารณา ป.ป.ช. ก็ชี้แจงเหตุผลว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีปัญหาตรงไหน อย่างไร รู้เรื่องแล้วทำไมจึงไม่ระงับยับยั้งเมื่อมีเสียงท้วงติง ส่วนฝ่ายน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ชี้แจงในมุมนั้นว่า ตั้งใจมาทำเพื่อเกษตรกร ไม่มีจุดประสงค์ให้เกิดความเสียหายหรือโกงกิน แต่การทำอย่างนี้ก็เท่ากับทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย ได้มีโอกาสชี้แจงเรื่องนี้ต่อสังคมอย่างเปิดเผย ให้พี่น้องประชาชนได้ฟังข้อมูลทั้ง 2 ทาง แบบที่ไม่ใช่โต้กันไปมาผ่านสื่อ
 
                “สรุปคือเป็นห่วง ขอให้ทุกคนช่วยกันชี้แจง ฝากสื่อมวลชนใช้ดุลพินิจนำเสนอข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบ และมั่นใจในจรรยาบรรณของทุกคนในการนำเสนอข้อมูล อย่าไปขยายความขัดแย้งอีก”พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
 
                เมื่อถามว่านายกฯ ได้ติดตามการถ่ายทอดสดการถอดถอนดังกล่าวหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกฯ ตามข้อมูลข่าวสารตลอดอยู่แล้ว แต่หากนายกฯ ติดภารกิจงานอะไรก็จะสั่งการให้ผู้ติดตามสรุปข้อมูลไว้แล้วนำเรียนภายหลัง เมื่อถามว่านายกฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงเฝ้าจับตากลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีการสั่งการพิเศษเฉพาะหน่วยงานหรือไม่ แต่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก ได้ร่วมติดตามสถานการณ์และร่วมประชุมกับนายกฯ ตลอดอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้รัฐบาลก็เริ่มมั่นใจว่าประชาชนเข้าใจรัฐบาลและคสช.มากขึ้น
 
                เมื่อถามว่านายกฯ ได้ขอให้สื่อมวลชนลดการนำเสนอข่าวที่สร้างความขัดแย้งหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการวิเคราะห์วิจารณ์กันไปว่ารัฐบาลส่งสัญญาณแบบนั้นแบบนี้บ้าง ซึ่งนายกฯ ได้อธิบายไปหมดแล้ว แต่สิ่งที่นายกฯ กังวลคือกลุ่มการเมืองที่มีสื่ออยู่ในมือคอยชี้นำมวลชนซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเพราะทำให้สังคมแตกแยกจึงให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงและขอความร่วมมือว่าอย่าแบ่งสีแบ่งฝ่ายอีกเลยเพราะสังคมเริ่มเข้าสู่ความสงบแล้ว
 
                เมื่อถามว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังมีอำนาจในการจัดการกลุ่มที่ยุยงปลุกปั่น อะไรหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า คสช.ยังมีอำนาจในการดำเนินการสั่งการ แต่คสช.ไม่ต้องการไปไล่บี้ใครแต่คสช.อยากให้แต่ละกลุ่มตระหนักได้ด้วยตนเองว่าบ้านเมืองขณะนี้อยู่ในความสงบแล้ว แต่หากตระหนักเองไม่ได้เราก็ต้องจัดการด้วยวิธีจากเบาไปหาหนัก โดยเริ่มจากพูดคุยแบบให้เกียรติก่อนแล้วค่อยมีมาตรการอื่นๆ ตามมา
 
                เมื่อถามว่าคืนวันนี้ฝ่ายความมั่นคงจะมีการเฝ้าจับตาสถานการณ์อะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ทางฝ่ายความมั่นคงทำหน้าที่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว และไม่ได้มีการจับตาอะไรเป็นพิเศษ
 
                "จะเรียกว่าคืนนี้จะเป็นคืนหมาหอนคงไม่ใช่เพราะสภานิติบัญญัติ(สนช.)เป็นบุคคลที่มีคุณวุฒิซื้อกันไม่ได้อยู่แล้ว แต่หากฝ่ายการเมืองจะหอนก็หอนไปทางเราก็พยายามทำทุกอย่างให้เรียบร้อย ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันให้ข้อมูลที่เป็นจริง และรัฐบาลอยากให้เชื่อมั่นในการทำงานของสนช." พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
 
                เมื่อทั้งสองฝ่ายได้ชี้แจงหมดแล้ว แต่ประชาชนยังคงมีความสงสัยบางประการรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความยุติธรรมทั้งสองฝ่ายจะไปพูดชี้นำอะไรไม่ได้ ดังนั้นรัฐบาลไม่สามารถทำอะไรมากไปกว่าการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนว่าเราพยายามให้ความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่ายเรียกได้ว่าเป็นผู้คุมกติกาเท่านั้นม ส่วนหากผลคำตัดสินออกมาแล้วยังมีบางฝ่ายไม่พอใจคงเป็นไปไม่ได้ เพราะจากการสำรวจพบว่าประชาชนไม่ได้ติดใจอะไรเพียงแต่อยากฟังข้อมูลทั้งสองฝ่ายเท่านั้น และนายกฯ ก็มั่นใจว่าปฏิกิริยาของประชาชนเป็นแบบนั้น
 
                เมื่อถามว่าการที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำกลุ่มนปช.ออกมาระบุว่าหากเกิดการถอดถอนขึ้นจริงการปรองดองคงไม่เกิดขึ้นแน่นอน พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า "ใช่หรือ การปรองดองต้องไม่ทำความจริงให้ปรากฏหรือ ไม่ใช่ ความยุติธรรมจะเกิดขึ้นต่อเมื่อเราทำความจริงให้ปรากฏให้ทั้งสองฝ่ายได้ชี้แจงข้อมูลที่เป็นอยู่อย่างเต็มที่ ท่านจะมาเองหรือจะให้ใครชี้แจงแทนก็เป็นเรื่องที่สนช.จะใช้ดุลยพินิจพิจารณา" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
 
                เมื่อถามว่าพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) หากมีกองเชียร์มาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์สามารถทำได้หรือไม่ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า เราจะไปห้ามก็คงไม่ได้แต่นายกฯ เชื่อมั่นว่าหากเพียงไปให้กำลังใจก็คงไม่เป็นไร แต่หากทำอะไรที่สร้างความขัดแย้งขึ้นมาอีกก็คงไม่ได้แน่
 
 
 
"นพ.วรงค์"เหน็บถาม"ยิ่งลักษณ์" 
 
               นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์แถลงปิดคดีว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำนพ.วรงค์ซึ่งเป็นคู่ปฏิปักษ์ทางการเมืองมาเป็นพยานในคดีถอดถอนว่า ตนทำหน้าที่ฝ่ายค้านขณะนั้น ก็ตรวจสอบการบริหารงานของฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายที่ประกาศและนำมาใช้ปฏิบัติ เมื่อเกิดความเสียหายหรือมีเรื่องไม่ชอบมาพากลก็ต้องทักท้วง การที่ป.ป.ช.นำตนมาเป็นพยานก็ถูกต้องตามหลักสากล เพราะเป็นผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบตามบทบาท 
 
               "วันนี้คงได้เห็นคุณยิ่งลักษณ์มะโนอยู่คนเดียว ในหลายๆประเด็นที่คุณยิ่งลักษณ์จินตนาการณ์เอง เอาแค่การปิดบัญชีคุณยิ่งลักษณ์ไม่เชื่ออนุกรรมการปิดบัญชีที่ตนเองตั้ง แต่ไปเชื่อข้อมูลองค์การคลังสินค้า(อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) ที่เป็นฝ่ายถูกอนุกรรมการตรวจสอบ คุณยิ่งลักษณ์อ้างว่าการที่ปลัดกระทรวงพาณิชย์ไปแจ้งความดำเนินคดีคู่สัญญาข้าวที่เสื่อมสภาพ กลับอ้างว่าเป็นไปตามเงื่อนไขสัญญาที่รัฐบาลตนเองทำไว้ แต่ไม่รู้หรอกว่า ยิ่งเป็นการสะท้อนถึงการปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหาย " นพ.วรงค์ กล่าว 
 
               นพ.วรงค์ กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์อ้างว่าป.ป.ช. เชิญผมและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นพยานนั้น ถือว่าเชิญฝ่ายตรงข้ามมาเป็นพยาน สงสัยน.ส.ยิ่งลักษณ์คงต้องการให้เชิญเสี่ยเปี๋ยงมาเป็นพยานฝ่ายผู้ร้องแน่ และยังอ้างว่าในการระบายข้าวแบบจีทูจี ได้ให้นางวัชรี วิมุตตายนต์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ตั้งกรรมการสอบสวน ผลการสอบสวนกลับไม่พบการทุจริต ซึ่งตรงข้ามกับผลของป.ป.ช. 
 
               นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังอ้างอีกว่ามีมาตการในการปราบปรามการทุจริต แต่การดำเนินการเป็นแค่ในกระดาษ เพราะในความเป็นจริงเกิดการทุจริตทุกขั้นตอน นอกจากนี้ยังพยายามบอกว่าคดีจีทูจีเป็นคนละสำนวนของตนเอง แต่หารู้ไม่ว่ายิ่งเป็นการตอกย้ำการปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสีนหายจากการทุจริต 
 
               "คุณยิ่งลักษณ์อ้างว่า โครงการนี้ต้องการช่วยชาวนา และเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีชาวนาโดยตรง แต่คุณยิ่งลักษณ์ไม่รู้หรอกว่า เวลาเขาโกงชาวนา เขาตัดเป็นปริมาณข้าวเปลือกออกไป หรือถ้าเงินเข้าบัญชีชาวนาก็มีการไปข่มขู่เพื่อเอาเงินจากชาวนา จึงไม่แปลกที่คุณยิ่งลักษณ์ช่วยจนชาวนาจนฆ่าตัวตายถึง 16 ราย ทั้งนี้ผมหวังว่าท่านสนช.คงไม่ปรองดองกับผู้กระทำผิด ที่สำคัญคือผิดแล้วยังไม่สำนึก" นพ.วรงค์ กล่าว 
 
 
 “ไก่อู”เผย"ประยุทธ์"สั่งแม่น้ำ 5 สายช่วยออกรายการ
 
               พล.ต.สรรเสริญ กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการเดินหน้าประเทศไทยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้สั่งการอะไรเพียงแต่สั่งการว่าในระหว่างที่หน่วยงานแม่น้ำทั้ง 5 สาย ได้แก่ คสช. ครม. สนช. สปช. และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทำงานทุกคนต้องช่วยกันชี้แจงกับสังคมจึงอยากให้รายการมีความน่าสนใจและตอบโจทย์สังคมมากขึ้นและไม่น่าเบื่อ โดยระยะเวลาในการดำเนินรายการ 15 นาทีเหมือนเดิม
 
 
สนช.ยันงานพบปะสังสรรค์วันนี้เป็นแค่เลี้ยงปีใหม่
 
 
                เมื่อเวลา 18.00 น. ที่สโมสรทหารบก เทเวศร์  สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ ภายใต้ชื่องาน “ราตรีคนช่างฝัน สังสรรค์สนช.”  บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก สมาชิกสนช.เดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก  ท่ามกลางกระแสข่าวว่า จะมีการล็อบบี้การลงมติถอดถอน 3 คดี ที่จะสนช.จะลงมติในวันที่ 23ม.ค. โดยแกนนำสนช.หลายคนเดินทางมาร่วมงานอาทิ นายพรเพชร วิชิตชลชัยประธานสนช. , พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา , พล.อ.นพดล อินทปัญญา , นายกล้านรงค์ จันทิก
 
                โดยนายพรเพช วิชิตชลชัย ประธาน สนช. กล่าวว่า เป็นงานเลี้ยงปีใหม่ พบปะสังสรรค์ของสนช. ไม่มีการคุยเรื่องการเมืองหรือเรื่องถอดถอน ไม่มีทฤษฎีสมคบคิด แต่เป็นความบังเอิญที่กำหนดวันไว้ก่อน แล้วมาตรงกับวันลงมติถอดถอน  ไม่มีคุยเรื่องถอดถอน ว่ากันจบแล้วในที่ประชุม ซึ่งในวันที่ 23 ม.ค.ค่อยว่ากัน วันนี้ไม่มีแล้ว
 
                ด้านพล.ท.พิศนุ พุทธวงศ์ สนช. นายทหารคนสนิของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวว่า เป็นงานเลี้ยงที่มีกำหนดนัดหมายนานแล้ว ไม่มีการพูดคุยเรื่องถอดถอน และไม่ขอแสดงความเห็น เพราะไม่สามารถทราบความคิดในใจของใครได้ ส่วนตนจะโหวตอย่างไรก็ไม่ขอเปิดเผย
 
                นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์สมาชิก สนช.เปิดเผยว่า งานเลี้ยงเย็นวันนี้ได้มีการกำหนดมาล่วงหน้า เพื่อให้ สนช.พบปะสังสรรค์กันเสมือนงานเลี้ยงปีใหม่ โดยไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีการกำหนดลงมติถอดถอนในวันพรุ่งนี้ ( 23 ม.ค. ) ช่วงตอนแรกมีการหารือว่าอยากให้เลื่อนการจัดงาน เพราะไม่อยากถูกมองว่าจะเป็นการมาพูดคุยเรื่องการเมือง แต่มีการเตรียมงานไว้หมดแล้ว จึงต้องเดินหน้าต่อ ยืนยันว่าเป็นการสังสรรค์กันตามปกติ ไม่มีการพูดการเมือง หรือพูดเรื่องการถอดถอน เพราะเชื่อว่าขณะนี้ทุกคนที่ได้ฟังคำแถลงปิดคดี สามารถตัดสินใจกันได้แล้ว ทั้งนี้ส่วนตัวในวันพรุ่งนี้ยังจะเสนอให้มีการลงมติพร้อมกันทั้ง 3 สำนวน โดยการแจกบัตรลงคะแนนลับ 3 ใบคนละสี แต่ตั้งคณะกรรมการนับคะแนน 3 ชุด เพื่อนับคะแนน
 
 

 

 

 
กำลังแสดงหน้าที่ 1 จากทั้งหมด 0 หน้า [หน้าถัดไปคือหน้าที่ 2] 1
 

 
เงื่อนไขแสดงความคิดเห็น
1. ทุกท่านมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระเสรี โดยไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ไม่กล่าวพาดพิง และไม่สร้างความแตกแยก
2. ผู้ดูแลระบบขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใด ๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
3. ความคิดเห็นเหล่านี้ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับคณะผู้จัดทำเว็บไซต์

ชื่อ :

อีเมล์ :

ความคิดเห็นของคุณ :
                                  

              * ใส่รหัสจากภาพที่เห็นลงในช่องด้านล่าง และใส่คำตอบจากคำถาม เพื่อยืนยันการส่งความเห็น
  และสำลีสีอะไร
    

          ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการแสดงความคิดเห็นโดยสาธารณชน ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชื่อผู้เขียนที่้เห็นคือชื่อจริง และข้อความที่เห็นเป็นความจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ boyoty999@google.com  เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้