ผลการพัฒนาทักษะการคิดโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es)
ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมและ ธรรมาภิบาล
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสมสะอาดพิทยาสรรพ์
โดยนางมนัสชนก อุดมดี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนสมสะอาดพิทยาสรรพ์
.....บทคัดย่อ
ผลการพัฒนาทักษะการคิดโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es)
ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมและ ธรรมาภิบาลของโรงเรียนสมสะอาดพิทยาสรรพ์ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยใช้กิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์ให้มีคะแนนทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เฉลี่ยร้อยละ 80 ขึ้นไป
โดยมีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของนักเรียนทั้งหมด 2) เพื่อพัฒนาเจตคติทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนสมสะอาดพิทยาสรรพ์ อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 30 คน จำแนกเป็นนักเรียนชาย 19 คน นักเรียนหญิง 11 คน ซึ่งนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้เข้าร่วมกิจกรรมค่ายเยาวชนคนดีของแผ่นดิน ตามโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมและ ธรรมาภิบาล รวมระยะเวลา 2 วัน มีรูปแบบการวิจัย 2 รูปแบบ คือ 1) รูปแบบการวิจัย One – shot case study ผู้วิจัยใช้ในขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูลด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมค่ายโดยวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หลังจากเสร็จสิ้นการเข้าร่วมกิจกรรมค่าย 2) รูปแบบการวิจัย One group pretest – posttest design ผู้วิจัยใช้ในขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูลด้านเจตคติทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่เข้าค่าย โดยวัดเจตคติทางวิทยาศาสตร์ก่อนร่วมกิจกรรมค่าย 1 ครั้งและวัดเจตคติทางวิทยาศาสตร์หลังจากเสร็จสิ้นการเข้าร่วมกิจกรรมค่ายอีก 1 ครั้ง รวม 2 ครั้ง
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) หลักสูตรกิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น 2) แบบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3) แบบวัดเจตคติทางวิทยาศาสตร์สถิตที่ใช้ในการวิจัยคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ t - test
ผลการวิจัยพบว่า 1) คะแนนเฉลี่ยทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ร้อยละ 80 (62 คะแนนจาก 78 คะแนน) โดยมีคะแนนเฉลี่ย 69.66 คิดเป็นร้อยละ 89.30 และมีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ในระดับดี ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ของนักเรียนทั้งหมด โดยมีนักเรียนผ่านเกณฑ์ในระดับดี 26 คน คิดเป็นร้อยละ 86.66 มากกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 2) คะแนนเฉลี่ยเจตคติทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนก่อนเข้าร่วมกิจกรรมค่าย เท่ากับ 16.44 ส่วนคะแนนเฉลี่ยเจตคติทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนหลังเข้าร่วมกิจกรรมค่ายเท่ากับ 24.78 ซึ่งสูงกว่าก่อนเข้าร่วมกิจกรรมค่าย นั่นคือนักเรียนมีเจตคติทางวิทยาศาสตร์ก่อนและหลังการเข้าร่วมกิจกรรมค่าย ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05