คุณค่าของ "คนดีในสังคม" นำเข้าเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2556 โดย นายจุฬา ศรีบุตตะ อ่าน [58745]
คุณค่าของ "คนดีในสังคม"
.....คุณค่าของ "คนดีในสังคม"
เนื่องจากคนเราไม่สามารถอยู่ตามลำพังได้ จึงมีการอยู่ร่วม
กันเป็นชุมชนหรือสังคม ซึ่งอาจจะเป็นสังคมระดับหมู่บ้าน ตำบล
อำเภอ จังหวัดหรือประเทศไม่ว่าสังคมจะมีขนาดเล็ก หรือขนาด
ใหญ่ก็ตาม แต่ละสังคมย่อมมีคนเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญ
ที่สุด ฉะนั้นคุณภาพของคนในแต่ละสังคม จึงเป็นเครื่องบ่งชี้ถึง
ความเจริญก้าวหน้า และความผาสุกของสังคมนั้น เราแต่ละคน
ในฐานะที่เป็นสมาชิกของสังคมย่อมมีหน้าที่ที่จะต้องประพฤติตน
ให้เป็นพลเมืองดี และช่วยเหลือสังคมด้านต่าง ๆ เท่าที่สามารถ
ทำได้ ตลอดจนไม่ทำตนให้เป็นภาระของสังคม เนื่องจากแต่ละ
สังคม ประกอบด้วยคนเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีอาชีพ ต่าง ๆ กันและ
มีทั้งคนดีและคนไม่ดี คนที่เป็นคนดีนั้นจะมีอาชีพสุจริต ทำงาน
ด้วยความขยันขันแข็ง ช่วยเหลือกิจการของสังคมด้วยความเต็มใจ
เคารพกฎหมาย และดำเนินชีวิตถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
เป็นคนที่มีเหตุผล ส่วนที่คนเราเห็นว่าไม่ดีนั้นส่วนมากจะทำงาน
ที่ทุจริต เช่น ขายยาบ้า ต้มสุราเถื่อน ขายหวย ปล้นจี้ชิงทรัพย์
หลอกลวงประชาชน หรือไม่ยอมทำมาหากินให้เป็นหลักฐานแน่
นอน บางคนแม้มีอาชีพที่สุจริต ก็อาจเป็นคนไม่ดีได้ ถ้ามีความ
ประพฤติไม่ดี เช่น โกงกิน รับสินบน ปลอมแปลงสินค้า กักตุน
สินค้าเป็นต้น คนเหล่านี้จะไม่คำนึงถึงบาปบุญคุณโทษ นอกจาก
เงินและตนเองเท่านั้น ซึ่งเราอาจพบได้ในข่าวทางหน้า หนังสือ
พิมพ์ วิทยุ หรือโทรทัศน์ ฉะนั้นเราจึงพอสรุปได้ว่า สังคมใดที่
สมาชิกมีจิตใจโอบอ้อมอารี ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เห็นแก่
ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว มีความสามัคคี
กลมเกลียวกัน ทำอาชีพที่สุจริต มีความขยันขันแข็งและยึดมั่นใน
ศีลธรรม สังคมนั้นย่อมมีแต่ความผาสุกและมีความเจริญก้าวหน้า
อย่างรวดเร็ว แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าสมาชิกของสังคมมีแต่
ความอิจฉาริษยา มีการแก่งแย่งชิงดีกัน ไม่ช่วยเหลือกันเห็นแก่ ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม จ้องทำร้ายบุคคล
อื่นเพื่อประโยชน์ของตน ยุแหย่ให้คนในสังคมแตกแยกกัน ไม่
ยึดมั่นในศีลธรรมอันดีงาม สังคมนั้นยอมมีแต่ความเดือดร้อน
และไม่เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร
|