นักวิชาการฟันธงต้องยุบสมศ.-สทศ.ภายใน 2-3 ปี ชี้ประเมิน 13 ปีล้วนมาจากข้อมูลเท็จ
นำเข้าเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2556 โดย นายศักดิ์ชัย แสนโยธา
อ่าน [58544]  

นักวิชาการฟันธงต้องยุบสมศ.-สทศ.ภายใน 2-3 ปี ชี้ประเมิน 13 ปีล้วนมาจากข้อมูลเท็จ.....

 

นักวิชาการฟันธงต้องยุบสมศ.-สทศ.ภายใน 2-3 ปี ชี้ประเมิน 13 ปีล้วนมาจากข้อมูลเท็จ

 
 
 
 
ฟันธงยุบ สมศ. - สทศ. ภายใน 2 ปี
ขอบคุณข้อมูลจาก คมชัดลึก ฉบับวันที่ 15 ม.ค. 2556 (กรอบบ่าย)
 
          นักวิชาการฟันธงต้องยุบสมศ.-สทศ.ภายใน 2-3 ปี ชี้ประเมิน 13 ปีล้วนมาจากข้อมูลเท็จ ผู้ประเมินไม่ได้ตรวจสอบคุณภาพโรงเรียนจริงๆ ฝากย้อนดู ยอมรับตัวเองควรยุติบทบาท แนะให้ชุมชนทำหน้าที่ประเมินแทน
          รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะ ครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เห็นด้วย อย่างมากกับการเสนอให้ปิดสำนักงานรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) และสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เพราะ 13 ปีที่ผ่านมา สมศ. และสทศ.เองไม่ได้ช่วยให้ระบบการศึกษาดีขึ้น แถมเสียงบประมาณโดยใช่เหตุ ผลการประเมินที่ได้ก็ไม่สะท้อนความเป็นจริง โดยเฉพาะ

สมศ.ที่ควรเปิดประเมินตัวเอง โดยให้ผู้อื่น เช่น ครู โรงเรียน มาประเมินคุณภาพของ สมศ.บ้าง และแสดงความชัดเจนเรื่องกรอบเวลาว่าไม่เกิน 3 ปี จะปิดตัวเองลง
 
          รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ สมศ.ทำ เป็นการรับแนวคิด ทฤษฎีการศึกษามาจากต่างประเทศ แต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมให้ครู โรงเรียน ทำให้เกิดความเสียหาย หาประโยชน์จากการประเมินไม่ได้เพราะเวลาไปประเมินผู้ประเมินก็ไปเหมือน อำมาตย์สนใจแต่การได้รับการดูแลเอาใจใส่ และตรวจสอบเอกสารจากครูที่รีบเร่งเอาเอกสารมาให้ ไม่ได้ดูระบบการเรียนการสอน คุณภาพของโรงเรียนจริงๆ เนื่องจากเอกสารส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเท็จ ไม่ตรงกับความเป็นจริงเมื่อประเมินจากข้อมูลเท็จ ผลการประเมินที่ได้ก็เป็นเท็จ เวลาผู้บริหารงานนำผลการประเมินไปตัดสินใจก็เป็นการรับรู้ข้อมูลเท็จ ทำให้ไม่สามาถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละโรงเรียนได้จริงๆ
 
          ยกตัวอย่างเช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน (สพฐ.) เสนอข้อมูลว่ามีเด็กดร็อปเอาท์ เพียง 52 คน ทั้งที่ในความเป็นจริงมีจำนวนมาก หรือเด็กตั้งครรภ์มี 1,000 กว่า แต่ในความเป็นจริงมีหลายพันคน เป็นต้น การประเมิน สมศ.จึงไม่ได้สะท้อนความคิดเห็นของคนอื่นและย้อนกลับมาดูตัวเอง ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นและยุติการทำงานของตนเอง ภายใน 2-3 ปีนี้ ซึ่งการประเมิน สมศ.ควรยุติเพียงรอบที่ 3 ส่วนอนาคตอยากให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และชุมชนที่ตั้งโรงเรียนเป็นผู้ประเมินโรงเรียน เพราะถ้าเขาอยากให้ลูกหลานมีคุณภาพ ก็ต้องช่วยพัฒนาโรงเรียนและผลประเมินต้องออกมาตามความเป็นจริง
 
 

 

 
กำลังแสดงหน้าที่ 1 จากทั้งหมด 0 หน้า [หน้าถัดไปคือหน้าที่ 2] 1
 

 
เงื่อนไขแสดงความคิดเห็น
1. ทุกท่านมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระเสรี โดยไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ไม่กล่าวพาดพิง และไม่สร้างความแตกแยก
2. ผู้ดูแลระบบขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใด ๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
3. ความคิดเห็นเหล่านี้ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับคณะผู้จัดทำเว็บไซต์

ชื่อ :

อีเมล์ :

ความคิดเห็นของคุณ :
                                  

              * ใส่รหัสจากภาพที่เห็นลงในช่องด้านล่าง และใส่คำตอบจากคำถาม เพื่อยืนยันการส่งความเห็น
  และสำลีสีอะไร
    

          ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการแสดงความคิดเห็นโดยสาธารณชน ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชื่อผู้เขียนที่้เห็นคือชื่อจริง และข้อความที่เห็นเป็นความจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ boyoty999@google.com  เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้