สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการก้าวเข้าสู่การเมือง ของ 'เพรียวพันธ์' ระบุอันดับ 1 เห็นว่าเป็นเรื่องปกติเพราะใครก็อยากทำงานกับพรรคเพื่อไทยเพราะเป็นพรรคใหญ่ ชี้ความเป็นคนเก่งปราบยาเสพติดและฝีมือเป็นที่ยอมรับ และอยากให้นั่งตำแหน่งรองนายกฯ แต่ไม่แน่ใจจะทำให้พรรคเข็มแข็งขึ้น...
เมื่อ วันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สวนดุสิตโพลได้มีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ต่อการก้าวเข้าสู่การเมืองของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กรณีเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยหลายฝ่ายมองว่าเป็นการเข้ามาเพื่อชิมลางทางการเมืองและช่วยเสริมความเข้ม แข็งให้พรรคเพื่อไทยมากขึ้น จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,218 คน ระหว่างวันที่ 17-19 ต.ค. 2555 เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมทางการเมือง และแสวงหาฐานข้อมูลด้านความคิดเห็นของประชาชน
สรุปผลดังนี้ ประชาชนร้อยละ 30.23 เป็นอันดับ 1 เห็นว่า เป็นเรื่องปกติเพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ที่มีคนสนใจและอยากจะเข้าร่วม ร้อยละ 28.88 อันดับ 2 เห็นว่า เป็นการส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งภายในพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 24.14 อันดับ 3 เห็นว่าอาจมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นเครือญาติกัน และอันดับ 5 ที่ร้อยละ 16.75 เห็นว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ช่วยให้พรรคมีความเข้มแข็งมากขึ้น
เมื่อสอบถามโดยใช้โพลถามเรื่อง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ นั้นมีความถนัดงานด้านใดมากที่สุด ผลสำรวจจากประชาชนพบว่าร้อยละ 49.61 เป็นอันดับ 1 เรื่องปราบปรามยาเสพติด เพราะมีผลงานเป็นที่ยอมรับ เป็นที่รู้จักในเรื่องการปราบปรามยาเสพติด เป็นคนเก่งมีฝีมือ ร้อยละ 25.19 เป็นอันดับ 2 ดูแลตำรวจ เพราะอยู่ในแวดวงตำรวจมานาน มีความเข้าใจระบบงานของตำรวจดี เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาแล้ว ร้อยละ 16.79 เป็นดับ 3 ดูแล 3 จังหวัดภาคใต้ เพราะเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานาน อยากได้คนเก่งมีความสามารถ ทำงานเด็ดขาดเข้ามาดูแล ร้อยละ 8.41 เป็นอันดับ 4 เรื่องบริหารจัดการพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นเครือญาติของผู้บริหารพรรค ทำงานดี ไว้ใจได้ มีคุณสมบัติที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ยังได้มีการสำรวจว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เหมาะสมกับตำแหน่งใดมากที่สุด ผลจากการสำรวจพบว่า ร้อยละ 30.51 เป็นอันดับ 1 ได้แก่ ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เพราะจะได้ช่วยงานนายกฯ ได้อย่างเต็มที่ เป็นคนทำงานดี ไว้ใจได้ ร้อยละ 28.23 อันดับ 2 ได้แก่ ตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เพราะเป็นกระทรวงใหญ่ที่สำคัญ ผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งจะต้องมีคุณสมบัติ มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสม และร้อยละ 27.94 เป็นอันดับ 3 ได้แก่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากเป็นเครือญาติ น่าจะบริหารงานได้ตรงตามนโยบายของพรรค
ส่วนการเข้ามาเป็นสมาชิก พรรคเพื่อไทยของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มีผลทำให้พรรคเพื่อไทยเข้มแข็งมากขึ้นหรือไม่ ร้อยละ 59.63 อันดับ 1 พบว่า ไม่แน่ใจ เพราะคงต้องรอดูต่อไป ยังไม่รู้ว่าจะเข้ามาดำรงตำแหน่งใด กระแสการเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอน ร้อยละ 29.48 อันดับ 2 พบว่า เข็มแข็ง เพราะเป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ในการทำงาน เป็นกำลังสำคัญที่เข้ามาช่วยเหลือพรรค ส่วนร้อยละ 10.89 เป็นอันดับ 3 พบว่าไม่เข็มแข็ง เพราะเพียงแค่คนเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้พรรคเข้มแข็งขึ้นมาได้ พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่.