สุดที่ญี่ปุ่นปลื้ม
นำเข้าเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2555 โดย pop
อ่าน [58548]  

สุดที่ญี่ปุ่นปลื้ม.....

Prev
1 of 1
Next

updated: 28 ก.ย. 2555 เวลา 09:15:47 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ไทยส่ง "ส้มโอพันธุ์ทองดี" บุกตลาดญี่ปุ่น หลังอนุญาตนำเข้า เชื่อโดนใจผู้บริโภคทั้งประโยชน์และรสชาติ เล็งพัฒนาคุณภาพการผลิตควบคู่ประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยต่อเนื่อง หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในอนาคต

นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยส่งออกผลไม้คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.7 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยประเทศผู้นำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ประเทศในกลุ่มอาเซียน และสหรัฐอเมริกา ส่วนตลาดพรีเมี่ยมอย่างประเทศญี่ปุ่น มีมูลค่าประมาณปีละ 4-5 ร้อยล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.3-2.9 ของการส่งออกผลไม้ไทยทั้งหมด ซึ่งผลไม้ไทยที่ส่งออกไปยังญี่ปุ่นปัจจุบันมี 9 ชนิด ได้แก่ มะม่วง มังคุด ทุเรียน กล้วย สับปะรด มะพร้าวอ่อน สละ มะขามหวาน และล่าสุดคือ "ส้มโอพันธุ์ทองดี" ซึ่งกระทรวงเกษตรฯญี่ปุ่นได้ประกาศอนุญาตให้มีการนำเข้าเมื่อเดือนเมษายน 2555 ที่ผ่านมา หลังจากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการตามขั้นตอนมาตั้งแต่ปี 2548 โดยคาดว่าส้มโอพันธุ์ทองดีจะได้รับความนิยมไม่แพ้ผลไม้ 8 ชนิดที่ได้ส่งออกไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว สีสันสวยงาม และยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งในเรื่องของวิตามินซี เอ บี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ตรงตามรสนิยมการบริโภคผลไม้ของชาวญี่ปุ่น

ผลไม้ไทยที่ส่งออกไปยังตลาดญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญในด้านคุณภาพ โดยเฉพาะขนาดที่เป็น Premium grade และวิธีการกำจัดแมลงศัตรูพืช ที่ส่วนใหญ่ใช้วิธีอบไอน้ำ อันจะทำให้ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นเชื่อมั่นได้ว่าการบริโภคผลไม้ไทยนอกจากจะได้รับทั้งรสชาติที่ดีแล้ว ยังมีความปลอดภัยจากมาตรฐานการผลิตอีกด้วย อย่างไรก็ตาม จะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้นในตลาดญี่ปุ่นที่มีการนำเข้าผลไม้จากต่างประเทศมูลค่ากว่า2 แสนล้านเยน เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้ประเทศไทยที่ปัจจุบันมีการส่งออกผลไม้ไปตลาดญี่ปุ่น คิดเป็นร้อยละ 0.5

นายธีระกล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกส้มโอที่ให้ผลผลิตทุกสายพันธุ์รวมประมาณ 2 แสนไร่ เป็นพื้นที่ส้มโอพันธุ์ทองดีประมาณ 5 หมื่นไร่ ผลผลิตรวมประมาณ 4-5 หมื่นตันต่อปี ปลูกมากในจังหวัดนครปฐม เชียงราย ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก พระนครศรีอยุธยา พิจิตร และนครศรีธรรมราช ซึ่งปกติมีผลผลิตตลอดทั้งปี แต่ระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคมจะเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก อีกทั้งเป็นผลไม้ที่มีอายุการเก็บรักษายาว ทำให้มีความได้เปรียบในการส่งออก โดยการส่งออกส้มโอไปยังต่างประเทศของไทยในภาพรวมอยู่ที่ประมาณปีละ 1.2-1.3 หมื่นตันต่อปี ประเทศผู้นำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน

"ทางกระทรวงเกษตรฯพร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรทำการเพาะปลูก เก็บเกี่ยว และคัดบรรจุผลผลิต ตามมาตรฐานสากล"

 

 
กำลังแสดงหน้าที่ 1 จากทั้งหมด 0 หน้า [หน้าถัดไปคือหน้าที่ 2] 1
 

 
เงื่อนไขแสดงความคิดเห็น
1. ทุกท่านมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระเสรี โดยไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ไม่กล่าวพาดพิง และไม่สร้างความแตกแยก
2. ผู้ดูแลระบบขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใด ๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
3. ความคิดเห็นเหล่านี้ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับคณะผู้จัดทำเว็บไซต์

ชื่อ :

อีเมล์ :

ความคิดเห็นของคุณ :
                                  

              * ใส่รหัสจากภาพที่เห็นลงในช่องด้านล่าง และใส่คำตอบจากคำถาม เพื่อยืนยันการส่งความเห็น
  และสำลีสีอะไร
    

          ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการแสดงความคิดเห็นโดยสาธารณชน ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชื่อผู้เขียนที่้เห็นคือชื่อจริง และข้อความที่เห็นเป็นความจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ boyoty999@google.com  เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้