ดาวเทียมนาซาตรวจพบความผิดปกติของน้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์ โดยพบว่ามันละลายหายไปจนเกือบหมดในเวลาเพียงแค่ 4 วัน ซึ่งนาซากำลังวิเคราะห์หาสาเหตุ...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ นาซา เผยว่า ดาวเทียมสำรวจสภาพอากาศตรวจสอบพบว่า ผิวน้ำแข็งถึง 97 เปอร์เซ็นต์ของเกาะกรีนแลนด์บริเวณขั้วโลกเหนือ ละลายหายไปหมดภายในเวลาเพียง 4 วัน นับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อนในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา
นาซาระบุว่า เมื่อการสำรวจสภาพน้ำแข็งของกรีนแลนด์เมื่อวันที่ 8 ก.ค. พบว่าน้ำแข็งละลายไปประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ แต่ 4 วันต่อมากลับพบว่าน้ำแข็งละลายหายไปถึง 97 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนาซาไม่เคยพบเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนในรอบ 30 ปี นับแต่มีดาวเทียม แต่จากการวิเคราะห์ชั้นน้ำแข็งของนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 1889 หรือว่า 123 ปีมาแล้ว
ด้าน ดร.วาลีด อับดาลาติ หัวหน้าทีมวิทยาศาสตร์ของนาซาระบุว่า เรื่องนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต้องมานั่งขบคิดหาสาเหตุว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ ซึ่งจากการศึกษาชั้นน้ำแข็งพบว่า เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นทุกๆ 150 ปี โดยเฉลี่ย ซึ่งครั้งนี้ก็เข้าข่ายว่า อาจเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ะเกิดเพราะผลกระทบจากฝีมือมนุษย์เช่นกัน ซึ่งหากในปีหน้ายังพบว่าเกิดเหตุเช่นนี้อยู่อีก ก้นับว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก
ทั้งนี้ ผิวน้ำแข็งของเกาะกรีนแลนด์ที่มีความบางเพียงไม่กี่ฟุตใกล้พื้นที่ชายฝั่ง ไปจนถึงมีความหนามากกว่า 3 กม. ที่ใจกลางทวีป จะละลายประมาณ 55 เปอร์เซ็นต์ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี แต่จะกลับมามีน้ำแข็งปกคลุมตามเดิมเมื่อฤดูหนาวมาถึง