เดือนเมษายน เป็นเดือนที่ร้อนที่สุด ปีนี้ร้อนเป็นประวัติการณ์ จนมีผู้สูงอายุเสียชีวิตจากอากาศที่ร้อนระอุนี้ อากาศร้อนๆ อย่างนี้ สิ่งที่ต้องดูแลตัวเองก็คือต้องหลบแดด หลบร้อน เท่าที่จะทำได้ ไม่จำเป็นไม่ควรออกนอกบ้าน หากต้องออกก็ต้องมีหมวก มีร่ม กันแดด พกน้ำติดตัว แล้วดื่มทีละนิด อย่าปล่อยให้กระหาย ต้อง (1) พยายามระบายความร้อนออกจากร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นใส่เสื้อบาง ระบายลมได้ดี เสื้อผ้าหลวมๆ ไม่ปิดคอ ใส่สบายๆ เพื่อให้ความร้อนระอุในร่างกายระบายออกได้ง่าย ป้องกันไม่ให้ไฟหัวใจลุกไหม้เผาผลาญน้ำมากเกินไป เป็นการดูแลหัวใจที่ดีวิธีหนึ่ง นอกจากนี้เรื่องการดื่มกิน ก็ต้องให้เป็นประเภทลดร้อน เช่น พืชผักผลไม้ที่เย็น ชาที่เพิ่มความเย็น เป็นการลดร้อนจากภายในร่างกาย เช่น น้ำย่านาง ฟ้าทลายโจร หล่อฮังก้วย เก๊กฮวย ใบหม่อน ต้มใส่ขวดก่อนออกจากบ้าน จะช่วยลดความร้อนได้ไม่ร้อน หน้าร้อนเหงื่อจะออกมาก เหงื่อเป็นน้ำของหัวใจ อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งของเลือดด้วย หากเสียเหงื่อมาก จะทำให้เลือดหนืดขึ้น ทำให้ชี่ลดลง เกิดอาการอ่อนเพลีย อีกทั้งหัวใจก็อ่อนล้า เกิดอาการหวิวจะเป็นลม ที่เรียกกันว่า เมาแดด เมาความร้อน จึงต้องเพิ่มน้ำให้พอ ที่เสียชีวิต น่าจะมาจากร่างกายอ่อนแอ อยู่ท่ามกลางความร้อนจัดและแดดแรง จึงเกิดการเมาแดดเมาความร้อนแล้วไม่ได้ช่วยเหลือทันท่วงที
มีคำแนะนำให้กินอาหาร พืชผักผลไม้เย็นๆ เพื่อคลายร้อนมากมาย แต่ไม่มีค่อยมีข้อแนะนำว่า ต้องเลือกให้เหมาะกับร่างกายของตัวเองอย่างไร เพราะบางคนกินผักผลไม้บางชนิดแล้ว เกิดอาการร้อนใน แต่บางคนกินผักผลไม้บางชนิดแล้วเกิดอาการท้องอืด ท้องร่วง จึงมีผู้คนถามเข้ามาเยอะมากว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าผักผลไม้ชนิดไหนร้อนหรือเย็น จึงลองเสนอวิธีการสังเกตคร่าวๆ ดังนี้
1) ดูสี สีเขียว จะค่อนไปทางหนาวเย็น เช่น ถั่วเขียว ผักใบเขียว มะระ แตงโม แม้ข้างในแดงแต่เปลือกนอกก็เขียวเช่นกัน จนได้ฉายาว่า เจ้าแม่แห่งผลไม้เย็น แผนจีนจึงเปรียบเปรยว่า กินแตงโมแล้ว เท่ากับกินยาจีนตำรับดับกระหายคลายร้อนได้ 1 ตำรับเลยทีเดียว แม้แต่เปลือกยังเป็นยาได้เลย โดยล้างเปลือกแตงโมให้สะอาด หั่นตากแดดให้แห้ง มีฤทธิ์เย็น ต้มน้ำดื่มช่วยดับร้อนถอนพิษ คลายหงุดหงิดแก้กระหาย ขับปัสสาวะ สีแดงจะค่อนไปทางอุ่น เช่น ลิ้นจี่ สตรอเบอร์รี่ แก้วมังกร ทับทิม พุทราจีน เชอร์รี่ ส่วนร้อนคือ ทุเรียน และลำไย
2) รส ขม รสเปรี้ยว จะหนาวเย็น เช่น มะระ ลูกเสาวรส มีรสเปรี้ยว ฤทธิ์เย็น นำมาผ่าครึ่ง เหยาะเกลือนิดหนึ่ง ตกเข้าปากจะชื่นใจมาก แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ กรดในกระเพาะมาก ส่วนรสหวาน เผ็ด จะร้อน เช่น พริก ขิง หอม
3) แหล่งที่เกิด เช่น พืชที่เกิดและเติบโตในน้ำ จะเย็น เช่น ผักบุ้ง ผักกระเฉด ผักกูด ส่วนที่เกิดเจริญเติบโตในดิน จะอุ่นหรือ ร้อน เช่น ถั่วลิสง มัน เผือก
4) บริเวณที่เกิด พืชผักผลไม้ที่อยู่ในที่ร่มหลบแสงตะวัน จะมีฤทธิ์หนาวเย็น พืชผักผลไม้ที่อยู่ที่โล่งแจ้ง ตากแดด จะมีฤทธิ์ร้อน แต่ใช่ว่าจะไม่มีข้อยกเว้น ควรจะเชื่อผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีประสบการณ์ชีวิตมากก็แล้วกัน