เสริมภูมิต้านยาเสพติด อบรมนักเรียนประถม หลักสูตรจากสหรัฐ นำเข้าเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2555 โดย pop อ่าน [58530]
เสริมภูมิต้านยาเสพติด อบรมนักเรียนประถม หลักสูตรจากสหรัฐ
.....เสริมภูมิต้านยาเสพติด อบรมนักเรียนประถม หลักสูตรจากสหรัฐ
ด้วยสภาพปัญหาสังคมที่มีความสลับซับซ้อน ทำให้ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องยากในการแก้ไข
กลุ่มเด็กและเยาวชนกลุ่มเสี่ยง ทั้งในและนอกสถานศึกษา เป็นปัญหาสำคัญในลำดับต้นๆ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไป
ตามสถิติที่บันทึกไว้พบว่ากลุ่มผู้เข้าไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มีแนวโน้มเป็นกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงานมากขึ้น โดยอายุของผู้เข้ามาเกี่ยวข้อง มีแนวโน้มลดลงมาสู่กลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี โดยพิจารณาจากข้อมูลผู้เข้ารับการบำบัดรักษาเปรียบเทียบตั้งแต่ ปี 2551-2553 พบว่าผู้เข้ารับการบำบัดรักษาที่เป็นผู้เสพรายใหม่ มีช่วงอายุระหว่าง 15-19 ปี
นับเป็นความเสี่ยงที่กำลังเกิดขึ้นกับเด็กไทย
เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 154/2554 ลงวันที่ 9 กันยายน 2554 เรื่องยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด และคำสั่งศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ ที่ 1/2554 ลงวันที่ 22 กันยายน 2554 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด พ.ศ. 2555 โดยใช้ยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดเป็นยุทธศาสตร์หลัก กำหนดกลยุทธ์สำคัญตามสูตร 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง เพื่อต้านมหันตภัย
โดยแผนที่ 3 เป็นแผนสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด เพื่อตัดการเพิ่มจำนวนของผู้เสพรายใหม่ โดยจะให้ความสำคัญในการป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2554 ที่ผ่านมา ได้มีพิธีลงนามข้อตกลงร่วมกันไปแล้ว ในเรื่อง การให้การศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้ยาเสพติดในสถานศึกษา (Drug Abuse Resistance Education) หรือ D.A.R.E. เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดให้เด็กไทย
โครงการ D.A.R.E. ย่อมาจาก Drug ยาเสพติด Abuse การใช้ในทางที่ผิด Resistance การต่อต้าน และ Education การศึกษา
เป็นโครงการด้านการป้องกันการแพร่ระบาดยาเสพติดในเด็กนักเรียนของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีการดำเนินการอยู่ในหลายประเทศ ซึ่งพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. นำครูฝึก D.A.R.E. ที่ผ่านการอบรม จำนวน 2,200 คน มาฝึกอบรมให้ความรู้นักเรียนชั้นป.6 ถึงในห้องเรียน กำหนดให้สอนเด็กนักเรียนอย่างน้อย 2 ห้องเรียนต่อ 1 ภาคการศึกษารวม 10 บทเรียน บทเรียนละ 1 คาบการศึกษา ซึ่งโครงการดังกล่าวมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ที่ 4 มี.ค. ที่จะถึงนี้ โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เดินทางมาเป็นประธานในพิธี
สิ่งที่นักเรียนจะได้รับเมื่อจบหลักสูตร D.A.R.E. ทุกคนจะได้รับคือ ความรู้ ความเข้าใจ ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับโทษพิษภัย ของยาเสพติดชนิดต่างๆ เช่น บุหรี่ เหล้า กัญชา สารระเหย ยาบ้า ฯลฯ ที่มีผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจ ของตนเอง ทำลายสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อน ครอบครัว สังคม
และเรียนรู้ความรับผิดชอบทั้งทางสังคมและกฎหมาย ตลอดทั้งรู้เท่าทันเทคนิคของการโฆษณาที่แอบแฝงชักชวนให้วัยรุ่นเสพบุหรี่ เหล้า มีทักษะในการตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งจากตนเอง และต่อต้านแรงกดดันจากเพื่อนซึ่งชักชวนให้ทดลองใช้ยาเสพติด โดยนำทักษะในการปฏิเสธวิธีการต่างๆ ที่ได้เรียนรู้มาใช้ปฏิเสธได้อย่างมั่นใจ และไม่ทำลายมิตรภาพในการคบเพื่อน รวมทั้งสามารถเลือกคบเพื่อนที่ดี และนำความรู้ที่ได้รับจากโครงการไปแนะนำเพื่อน ผู้ใกล้ชิดไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์โดยนำกิจกรรมที่สร้างสรรค์มาแสดงออก ที่สามารถทำได้ทั้งในโรงเรียนและชุมชน โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
ส่วนเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ คือการลดและขจัดการเสพเหล้า บุหรี่ และยาเสพติดอื่นๆ รวมทั้งการใช้พฤติกรรมที่รุนแรงของ วัยรุ่น
หลักสูตร D.A.R.E. สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 เป็นชุดแรกในองค์ประกอบสามส่วน (อีกสองส่วน ได้แก่ หลักสูตรสำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และปีที่ 3 โดยหลักสูตรสำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จะเกี่ยวโยงกับหลักสูตรของชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 หลักสูตรสำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นหลักสูตรเสริมหลักสูตรสำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5,6 และมัธยมศึกษาปีที่ 1) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาความสามารถที่จำเป็นสำหรับนักเรียนในการดูแลรับผิดชอบชีวิตของตนเองนักเรียนจะเข้าใจถึงความเสี่ยงทางด้านร่างกาย ความรู้สึก สังคม กฎหมายและผลกระทบของการเสพเหล้า บุหรี่ กัญชา และสารระเหยที่มีต่อสมองและร่างกายที่กำลังพัฒนาของเขา นักเรียนจะเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของความเชื่อโดยทั่วไปของเพื่อนในชั้นเรียนกับข้อมูลจากสถาบันแห่งชาติเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติดประเภทต่างๆ และแก้ไขความเข้าใจ/ ความเชื่อที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับจำนวนของเพื่อนที่ไม่ใช้ยาเสพติด
นักเรียนจะมีความรู้เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับกิจกรรมที่ดีต่างๆ ที่พวกเขาสามารถทำได้ในโรงเรียนและชุมชน (พฤติกรรมที่ดีต่อสังคม) ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาเสพติด และนักเรียนจะเลือกทำกิจกรรมที่ดีเหล่านั้นแทนการใช้ยาเสพติด นักเรียนจะเข้าใจว่า กลยุทธ์ในการปฏิเสธ ทักษะในการสื่อสารที่ดี รวมทั้งทักษะในการแสดงออกอย่างมั่นใจและการโต้ตอบเป็นอย่างไร และสามารถประยุกต์ใช้ทักษะเหล่านั้นในลักษณะที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับชีวิตจริงต่างๆ ได้
เพื่อให้ชีวิตห่างไกลมหันตภัยร้าย
|