เลี้ยงปลาทับทิมซีพี-ปลานิลซีพี ในโรงเรียน นำเข้าเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2554 โดย จุฬาตรีคูณ อ่าน [58546]
| ในปี 2553 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปีทองของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาทับทิมซีพี-ปลานิลซีพี ในกระชังแขวนในบ่อ เนื่องจากราคาจำหน่ายดีเกือบตลอดทั้งปี เพราะกระแสความนิยมบริโภคเนื้อปลานั้นมีมากขึ้น แต่ปลาทะเลกลับลดปริมาณลงเรื่อยๆ
หลังกลุ่มธุรกิจเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ได้เริ่มวางโครงการพัฒนาสายพันธุ์ปลา ด้วยการนำปลานิลจิตรลดาพระราชทาน มาเป็นต้นตระกูลเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ตามแนวพระราชดำริ พร้อมกับคัดเลือกสายพันธุ์ปลาที่มีลักษณะเด่นมากในด้านต่างๆ ทั้งจากอังกฤษ อเมริกา อิสราเอล และไต้หวัน มาผสมข้ามพันธุ์กัน และปรับปรุงสายพันธุ์ทางด้านคุณภาพให้ดีขึ้นโดยวิธีตามธรรมชาติ กระทั่งได้ปลาเนื้อพันธุ์ใหม่ ที่มีลักษณะภายนอกอันโดดเด่น คือสีของเกล็ดและตัวปลามีสีแดงอมชมพูดูเป็นมงคล
สำหรับการเลี้ยงปลาชนิดดังกล่าว ยังมีหน่วยงานราชการที่คอยส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงปลาชนิดนี้เป็นอาชีพในแหล่งน้ำธรรมชาติที่ใสสะอาด ปราศจากมลพิษ ไม่มีการใช้ยาและสารเคมีที่ทำให้เกิดสารพิษตกค้างในตัวปลา และได้วางมาตรฐานการปฏิบัติทางการประมงที่ดีสำหรับฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำ (Good Aquaculture Practice : GAP) ที่เป็นเหมือนเครื่องหมายยืนยันคุณภาพของสินค้า ซึ่งจะทำให้ปลาที่เลี้ยงออกมามีมาตรฐาน ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
นิคม นักคุ่ย กำนันบ้านหัวบ้าน ต.โพหัก อ.บางแพ จ.ราชบุรี เกษตรกรผู้ประสบความสำเร็จในอาชีพการเลี้ยงปลาในโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงปลาทับทิมครบวงจร เล่าว่า เมื่อ 20 ปีก่อน ตนและครอบครัวทำนาปลูกข้าวเป็นหลัก แต่การทำนาก็พบปัญหาและอุปสรรคหลายอย่าง ทั้งศัตรูในนาข้าวและโรคระบาด ที่จำเป็นต้องใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องปุ๋ยราคาแพง ต้นทุนสูง และราคาข้าวตกต่ำ ทำให้ต้องหันมามองอาชีพอื่นที่มั่นคงกว่า ซึ่งการทำประมงเป็นอาชีพที่น่าสนใจ
กระทั่งปี 2544 มีการส่งเสริมการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามสายพันธุ์ดี ภายใต้การจัดการมาตรฐานของซีพีเอฟ หลังจากที่ได้ศึกษาดูก็เห็นโอกาสในอาชีพ จึงตัดสินใจที่จะทำอาชีพเลี้ยงกุ้งก้ามกรามซีพี โดยเลี้ยงในบ่อดินและประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ จนเมื่อปี 2553 ทีมงานของซีพีเอฟได้แนะนำการเลี้ยงปลาทับทิมกระชังแขวนในบ่อซึ่งน่าสนใจมาก ยิ่งเมื่อศึกษาดูงานจากในหลายๆ ที่ ก็ทำให้มั่นใจจึงตกลงเลี้ยง และผลการเลี้ยงก็ดีเกินคาดเพราะมีกำไรเพิ่มขึ้น อย่างชัดเจนแน่นอน
ปัจจุบันจึงได้เลี้ยงทั้งปลานิล ปลาทับทิม และกุ้งก้ามกราม ในส่วนของปลาที่เลี้ยงกระชังแขวนในบ่อทั้งหมด 100% จากผลการเลี้ยงที่ดีกำไรที่น่าพอใจทำให้มั่นใจในอาชีพนี้มากยิ่งขึ้น ปัจจุบันจึงมีแผนจะเพิ่มกระชังจาก 30 กระชัง เป็น 60 กระชัง เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มากขึ้น
กำนันนิคมบอกว่า ตนเชื่อและมั่นใจว่าอาชีพนี้จะเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ที่ดีและยั่งยืนให้แก่ครอบครัวของตน และที่สำคัญอาชีพนี้จะกลายเป็นมรดกที่จะมอบให้แก่ลูกๆ ทั้งยังเชื่ออีกว่าเป็นอาชีพที่สามารถสร้างอนาคตที่ดีให้แก่ลูกๆ ของตนได้อย่างแน่นอน
"สำหรับเกษตรกรที่สนใจในธุรกิจการเลี้ยงสัตว์น้ำกับซีพีเอฟ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ใส่ใจ และตั้งใจจริง เพราะทางซีพีเอฟจะส่งนักวิชาการมาคอยให้ความรู้เป็นประจำ อีกทั้งยังจัดหาตลาดรองรับผลผลิตให้ทั้งหมดอีกด้วย และเชื่อว่าเกษตรกรทุกท่านจะประสบความสำเร็จในอาชีพนี้อย่างแน่นอน" กำนันนิคมกล่าวทิ้งท้าย
.....
|